ปัญหาเรื่องสายตาเล็ก ๆ อาจเป็นสัญญาณเตือนสุขภาพตาครั้งยิ่งใหญ่.. คนเรามักจะใช้สายตาเป็นประจำในทุกวัน ขึ้นอยู่กับว่าจะใช้สายตาไปกับอะไร ยิ่งหนุ่มสาววัยทำงานที่ใช้งานอวัยวะนี้เยอะกว่าคนรุ่นอื่น และเสี่ยงกับ ปัญหาสายตา เพราะส่วนใหญ่ต้องนั่งหน้าจอคอมฯ ในทุก ๆ วัน แถมชีวิตประจำวันของพวกเรายุคนี้หนีไม่พ้นการดูหน้าจอโทรศัพท์อยู่เสมอ ๆ เล่นเกมส์ ดูซีรีย์ อ่านเมล ตอบแชท ซึ่งแน่นอนว่าหากคุณใช้สายตาไม่เหมาะสมในแต่ละวัน จะส่งผลต่อสุขภาพตาในระยะยาวได้อย่างแน่นอน และหมั่นสังเกตอาการ เพราะหากปล่อยไว้นาน อาจทำให้ดวงตาลดอายุไขการใช้งานได้ไวมากกว่าเดิม ซึ่งเป็นสิ่งที่เป็นอันตรายมาก ๆ ในบทความนี้จึงอยากเชิญชวนทุกคนให้เริ่มหันมาดูแลสายตาตั้งแต่วันนี้ และจะพาทุกคนไปดูสัญญาณเตือนครั้งแรกให้ลองได้สังเกตตัวเองกันก่อน พร้อมแนะนำ 5 โรคปัญหาสายตาที่พบได้บ่อยมีอะไรบ้าง
เริ่มต้น.. สังเกตอาการกันก่อน
สัญญาณเตือนที่กำลังบอกว่าคุณจะเริ่มมี ปัญหาสายตา แล้วนะ นั่นก็คือ “ภาวะอาการตาล้า” ที่มีจุดสังเกตมากมายหลายอย่าง และที่น่ากลัวคือ คุณรู้ไหมว่า ?! ทุกคนอาจจะเป็นกันอยู่แล้ว แต่ไม่เคยสังเกตมาก่อน ซึ่งสาเหตุนั้นเกิดจากการใช้ดวงตาโดยไม่ได้หยุดพักจึงทำให้เกิดอาการตาล้า โดยลักษณะอาการมีรายละเอียดดังต่อไปนี้
- ปวดตา ปวดกระบอกตา
- ตาแห้ง
- คันตา
- แสบตา มีน้ำตาไหล
- ตาแดง
- ตาพร่ามัว มองเห็นไม่ชัด
- ดวงตาไวต่อแสง
- เวียนหัว
- เหนื่อยล้า
ซึ่งสาเหตุเหล่านี้เป็นสิ่งที่สามารถเกิดขึ้นได้บ่อย ซึ่งถือว่าเป็นสัญญาณสุขภาพตาที่ไม่ค่อยดีนัก เบื้องต้นคุณอาจจะพิจารณาจากอาการเหล่านี้แล้วลองหาทางแก้ไปก่อนได้ แต่ทั้งนี้อาการตาล้า อาจเป็นสัญญาณของการบ่งบอกว่าเป็นโรคทางตาชนิดอื่นได้อีกด้วย ถ้าหากคุณเป็นแทบทุกข้อ ขอแนะนำปรึกษาแพทย์เฉพาะทางเพื่อประเมินและวินิจฉัยจะเป็นการดีที่สุด เพื่อที่จะหาทางป้องกันไม่ให้เกิดโรค เพราะมีโรคตาหลายชนิดเหมือนกัน ถ้าหากเป็นแล้วจะไม่สามารถรักษาได้
5 โรคปัญหาสายตาที่พบได้บ่อยมีอะไรบ้าง
ทีนี้ก็มาถึง 5 โรคปัญหาเรื่องสายตาที่สามารถพบได้บ่อย โดยโรคที่คัดมานั้นส่วนใหญ่แล้วมักจะเกิดจากพฤติกรรมการใช้สายตาของแต่ละคนเป็นหลัก และอาจเกี่ยวข้องกับอายุที่เพิ่มมากขึ้นก็ได้ด้วยเช่นกัน ถ้าหากคุณไม่มีการดูแลสุขภาพตาที่ดีหรือปล่อยปละละเลยแล้วละก็ สามารถทำให้เกิดโรคเหล่านี้ได้เช่นเดียวกัน
1. สายตาผิดปกติ
ปัญหาเรื่องสายตาผิดปกติ คือสิ่งที่คนทุกคนบนโลกต้องเป็น ไม่ว่าจะเป็น สายตาสั้น (มองไกล ๆ ไม่ได้เห็นภาพเบลอ) สายตายาว (มองใกล้ ๆ ไม่ได้เห็นภาพเบลอ) สายตาเอียง (ภาพขาดความคมชัด) หรือสายตายาวในช่วงวัยที่อายุเพิ่มมากขึ้น ส่วนหนึ่งเกิดจากการใช้สายตาที่ไม่เหมาะสม เช่น การอ่านหนังสือ การเล่นคอมพิวเตอร์ สมาร์ทโฟน รวมทั้งการอ่านหนังสือทั้งๆ ที่แสงไฟไม่เพียงพอ และอาจรวมถึงพันธุกรรมได้อีกด้วย
2. โรคคอมพิวเตอร์วิชั่นซินโดรม
โรคคอมพิวเตอร์วิชั่นซินโดรม (หนึ่งในโรคออฟฟิศซินโดรม) คือ การที่เราใช้สายตาจ้องกับหน้าจอคอมพิวเตอร์นาน ๆ แบบไม่หยุดพัก ความรุนแรงสามารถเพิ่มขึ้นได้ตั้งแต่ 2 ชั่วโมงขึ้นไป โดยอาการที่มักจะเป็น ได้แก่ ปวดเมื่อยตา ตาแห้ง แสบตา ตาพร่ามัวสู้แสงไม่ได้ ปวดกระบอกตา ปวดศีรษะ บางครั้งอาจมีอาการปวดหลัง ไหล่ หรือต้นคอร่วมด้วย จะจัดว่าเป็นภาวะตาล้าก็ได้ หรือจะจัดอยู่ในกลุ่มโรคออฟฟิศซินโดรมก็ได้เช่นเดียวกัน
3. โรคตาแห้ง
โรคตาแห้งนับว่าเป็นอีกโรคที่พบได้บ่อยมาก ๆ และสามารถเกิดได้กับทุกคน ซึ่งก็เกิดจากการที่ไม่สามารถผลิตน้ำตาไม่เพียงพอ สำหรับโรคนี้ถือว่าไม่ร้ายแรง แต่นับว่าเป็นสัญญาณเตือนแรก ๆ ที่คุณควรต้องรู้ หากเป็นมาในระยะเวลาหนึ่งจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องหาหมอ เพื่อที่ว่าจะเป็นโรคอื่น ๆ ร่วมด้วยก็ได้ สำหรับสาเหตุของการเป็นต้องบอกว่ามีเยอะมากๆ ไม่ว่าจะเป็นใช้สายตามากเกินไป แพ้ยาบางชนิด เปลือกตาอักเสบ ฮอร์โมนที่เปลี่ยนแปลงไป สามารถทดแทนได้ด้วยการใช้น้ำตาเทียม
4. โรคจอประสาทตาเสื่อม
สำหรับโรคจอประสาทตาเสื่อม ส่วนมากจะพบในผู้สูงอายุ หรือผู้มีสายตาที่สั้นมากๆ รวมไปถึงการมีปัญหาในแง่ของการติดเชื่อได้ โดยลักษณะอาการจะมีจุดดำ ๆ อยู่ตรงกลางเวลามองภาพ แต่โดยรอบสามารถมองเห็นได้ชัดเจน ซึ่งในปัจจุบันนี้ยังไม่มีวิธีการที่จะรักษาให้หายขาดได้ เพียงแต่ต้องหมั่นดูแลสุขภาพตาให้ดี ให้เป็นไปตามการเสื่อมของสภาพร่างกายตามอายุจะเป็นการดีที่สุด
5. วุ้นตาเสื่อม
โรควุ้นตาเสื่อม อาการจะมองเห็นเป็นจุดดำๆ เป็นเส้นๆ คล้ายหยากไย่ มองไปมองมา ก็จะเห็นลอยตามไปตามมา อันนี้แสดงให้เห็นว่าเป็นวุ้นตาเสื่อมสามารถเกิดจากตอนที่อายุเพิ่มมากขึ้น แต่ก็มีหลายกรณีเหมือนกันที่สามารถเกิดได้ในช่วงวัยทำงาน อย่างเช่น การมีสายตาสั้นที่มากจนเกินไป หรือเคยได้รับอุบัติเหตุที่ดวงตา โดยสาเหตุเกิดจากการเล่นคอมพิวเตอร์ เล่นสมาร์ทโฟน ที่มีการเพ่งสายตามากจนเกินไปจนทำให้ตาเสีย
ใส่ใจสุขภาพตาตั้งแต่วันนี้เพื่อการมองเห็นที่ดีในวันหน้า
ทั้งหมดนี้นับว่าเป็นปัญหาทางสายตาและโรคทางสายตาที่สามารถพบได้ในทุกๆ วัน หากมีเวลาก็อยากให้ทุกคนหันมาดูแลสุขภาพตาของตัวเอง เพียงแค่พักจากหน้าจอด้วยการหลับตาทุก ๆ 1 ชั่วโมง กะพริบตาบ่อย ๆ เพื่อให้น้ำตาเคลือบดวงตา มองออกไปไกล ๆ เพื่อลดการเพ่งของดวงตา หมั่นเติมน้ำตาเทียมหากพบว่าตาแห้ง เพียงทำแบบนี้บ่อย ๆ ใน 1 วัน ก็สามารถยืนอายุการใช้งานของดวงตาได้ไม่รู้ตัว
Credit Cover Image : Image by Freepik
References :
- https://www.bangkokhospital.com/content/computer-vision-syndrome
- https://www.bpksamutprakan.com/care_blog/view/85
- https://www.medparkhospital.com/disease-and-treatment/what-eye-tests-do-i-need-to-check-my-eye-health