*Trendy Now

ชั่วโมงนี้ไม่มีใครกล้าปฏิเสธความร้อนแรงของ House of the Dragon ซีรีส์ยอดนิยมส่งท้ายปี ดีไม่แพ้ซีรีส์ในสตอรี่ไลน์เดียวกันอย่าง Game of Thrones และเชื่อไหมว่า.. เพียงแค่ซีซันที่หนึ่งก็สามารถโกยสกอร์จากบ้าน imdb ไปถึง 8.6/10 และจาก Rotten Tomatoes 86% หากคุณเป็นคนนึงที่ได้ดูซีรีส์เรื่องนี้แล้ว จะเห็นว่าตัวละครใน House of the Dragon มีความโดดเด่นและบุคลิกลักษณะที่แตกต่างกันอย่างน่าสนใจ ความรู้สึกนึกคิดและการกระทำของตัวละครนึงมักพาคุณไปเจอประเด็นต่าง ๆ ที่น่าตื่นเต้น ซับซ้อนแต่ก็สอดประสานกันได้อย่างสนุก…

*รักโลก รักสุขภาพ

ดาเมจรุนแรงมากสำหรับกระแส Sustainability รณรงค์ให้คนหันมาดูแลสิ่งแวดล้อมกันมากขึ้น กระแสพุ่งตรงแรงที่ตั้งแต่ระดับตัวบุคคล ครอบครัว คนรักสุขภาพมากขึ้นและก็รักษ์โลกไปด้วย ไปจนถึงระดับอุตสาหกรรมขนาดเล็ก-ใหญ่ บริษัทแบรนด์ใหญ่ ๆ รีแบรนด์ตัวเองให้เป็นสาวก Eco Friendly ออกแคมเปญโปรโมท Sustainability มากมาย…

วิธีคิดหาไอเดียสร้างคอนเทนต์ใหม่ ๆ บนแพลตฟอร์มโซเชีลมีเดียที่ unique เป็นเอกลักษณ์ ไม่ซ้ำใคร ถือเป็นสกิลที่สำคัญมากของนักการตลาดสมัยใหม่ในการทำ Content Marketing เพราะหากมีคอนเทนต์ที่ดี…

โลกธุรกิจยุคดิจิทัลทุกวันนี้.. การแข่งขันสูง ต้องแข่งกับเวลา วิธีบริหารแบบเดิมที่เน้นวางแผนกลยุทธ์ให้แน่นอนก่อนแล้วค่อยลงมือทำ ถือว่าช้าเกินไปและใช้ไม่ได้ผลดีกับยุคนี้แล้ว ซึ่งปัญหานี้ก่อให้เกิดโซลูชันการบริหารแบบใหม่ คือ “การบริหารด้วย Business Model…

สิ่งที่เรียกว่า ‘ธุรกิจ’ ในสายตาของคุณนั้นคืออะไร ?.. หากย้อนกลับไปสิบถึงยี่สิบปีก่อน การมีแบรนด์คงไม่ใช่สิ่งสลักสำคัญอะไรมากมายสำหรับธุรกิจขนาดเล็กถึงกลาง พ่อค้าแม่ขายตลาดนัด คุณป้าร้านขายของชำ ไปจนถึงอาเฮียร้านห้องแถวขายอุปกรณ์ก่อสร้าง พวกเขาก็ยังสามารถทำกำไรเป็นกอบเป็นกำ…

แม้ว่าสงครามและโรคระบาดจะเริ่มซาลงกว่าแต่ก่อน ทว่ากระแสเทรนด์ดิจิทัลก็ยังคงมาแรงไม่หยุดยั้ง เพียงไม่ทันไรโลกของเราก็เริ่มพลัดเปลี่ยนจาก Digital Marketing (DM) สู่ Metaverse Marketing (MM)…

อ่านหัวข้อแล้ว ก่อนอื่นต้องออกตัวก่อนว่า เราไม่ได้จะบอกว่าการหาลูกค้าใหม่เป็นเรื่องที่ไม่จำเป็นหรือกลยุทธ์การลดราคาเป็นสิ่งที่ไม่ควรใช้ แต่อยากให้ลองคิดว่า หากลูกค้าที่ได้มามีแต่ลูกค้าครั้งเดียว (one-time customer) คุณก็คงต้องลดราคาอยู่เรื่อยไป จนกระทั้งนั่นกลายเป็น “ราคาปกติ”…

Business knowledge 77%
Technology 71%
Self development 90%
Potential improvement 86%

Athena new release

ถอดบทเรียน “ธุรกิจเจ๊ง” เช็คความเสี่ยงว่าธุรกิจคุณเข้าขั้นวิกฤตแล้วหรือยัง ? ปกติแล้วบทความส่วนใหญ่จะให้หนทางทำอย่างไรก็ได้ให้ธุรกิจประสบความสำเร็จ พร้อมแนะนำเคล็ดลับต่าง ๆ มากมาย แต่ถ้าหากคุณกำลังเริ่มต้นทำธุรกิจหรือทำธุรกิจแล้วกำลังประสบกับความเสี่ยงในการทำให้ ธุรกิจเจ๊ง…

คอร์สอบรมนี้สอนอะไร ? Convincing จิตวิทยาและวาทศิลป์ในการโน้มน้าวใจ “เคล็ดลับ! การโน้มน้าวใจคนให้สำเร็จ ด้วยเทคนิคเชิงจิตวิทยาและศิลปะการพูด”หลักการและเหตุผลการดำเนินธุรกิจในปัจจุบันหลากหลายองค์กรต่างเห็นความสำคัญถึงการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์”บุคลากร”ทางด้านทัศนคติกระบวนการความคิดให้เกิดความสุขในการทำงาน องค์กรจึงต้องนำศาสตร์และศิลป์ทางจิตวิทยามาประยุกต์ใช้ในการวางแผน บริหารจัดการ การจูงใจ การเจรจาต่อรอง…

คอร์สอบรมนี้สอนอะไร ? หลักสูตร Generative AI for Productivity เรียนออนไลน์ผ่าน Zoom Meeting…

เปิดรับสมัครแล้ว คอร์สเรียนออนไลน์ “ก้าวแรกสู่ การพูดในที่สาธารณะ” คอร์สเรียนทักษะการพูดในที่สาธารณะที่โฟกัสตรงจุด ทำให้คุณพัฒนาทักษะการพูดเป็นเร็วขึ้น SPEAK SPARK ได้กลั่นกรอง “ศาสตร์และศิลป์”…

คอร์สอบรมนี้สอนอะไร ? การกำหนดเป้าหมายและตัวชี้วัดผลงานขององค์กรเพื่อให้ได้งานเชิงพัฒนามากขึ้น หลายองค์กรได้เลือกทำการปรับปรุงแนวทางการกำหนดตัวชี้วัดผลงานเช่น KPIs โดยเปลี่ยนไปเป็นการตั้งเป้าหมายในเชิงพัฒนา รวมทั้งการกำหนดตัวชี้วัดผลงานแบบที่มุ่งเหตุที่ทำให้เกิดผล และผลลัพธ์ปลายทางที่ต้องการ มากกว่าที่จะตั้งตัวชี้วัดผลงานแบบงานประจำ และตัวชี้วัดผลงานที่มุ่งวัดผลเบื้องต้นเท่านั้น…

คอร์สอบรมนี้สอนอะไร ? ทําความรู้จักกับไคเซ็น (KAIZEN) เครื่องมือที่ช่วยในการทําไคเซ็นในสํานักงาน หมวดหมู่ งานบุคคล HR การทำงาน…

ดาเมจรุนแรงมากสำหรับกระแส Sustainability รณรงค์ให้คนหันมาดูแลสิ่งแวดล้อมกันมากขึ้น กระแสพุ่งตรงแรงที่ตั้งแต่ระดับตัวบุคคล ครอบครัว คนรักสุขภาพมากขึ้นและก็รักษ์โลกไปด้วย ไปจนถึงระดับอุตสาหกรรมขนาดเล็ก-ใหญ่ บริษัทแบรนด์ใหญ่ ๆ รีแบรนด์ตัวเองให้เป็นสาวก Eco Friendly ออกแคมเปญโปรโมท Sustainability มากมาย ตลอดจนการลงทุนาสร้างโปรเจคอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมที่ไม่แสวงหาผลกำไร และแน่นอนว่ามันคีพคูลเข้ากับเทรนด์ Eco Friendly ในเจเนอเรชั่นนี้มาก…

การ ทำธุรกิจกับเพื่อน หรือแฟน ใครหลายคนต่างก็บอกว่าเป็นความหายนะ เพราะธุรกิจอาจพังยังไม่พอ คุณยังอาจจะเสียความสัมพันธ์กับเขาเหล่านั้นอีกด้วย งานนี้ไม่มีอะไรคุ้มค่าเลย บางรายโชคดีหน่อยอาจจะแยกย้ายกันด้วยดี แต่ก็คงมีตะขิดตะขวงใจกันบ้าง มองหน้ากันอย่างคุ้นชินไม่ได้เหมือนเดิมอีกแล้ว ตัวอย่างด้านไม่ดีมีมากมายให้พบเห็น เพราะฉะนั้นการทำธุรกิจกับเพื่อนหรือแฟน หลายคนจึงคิดว่าไม่เวิร์คแน่ ๆ แต่เหรียญมีสองด้านเสมอ ใช่ว่าจะมีแต่คนที่ล้มเหลว ที่ประสบความสำเร็จมีให้เห็นก็ไม่น้อย อย่างเช่น Airbnb ที่ก่อตั้งโดย สามเพื่อนเกลอ Nathan Blecharczyk, Brian Chesky and Joe Gebbia หรือ Hewlett-Packard ก็เริ่มจากสองเพื่อนซี้ที่จบจากมหาวิทยาลัยเดียวกัน Bill Hewlett และ Dave Packard Fun-Fact : Big Tech. Company ชื่อดังระดับโลก ที่เรารู้จัก ไม่ว่าจะเป็น Google, Microsoft และ Apple ต่างก็ไม่ได้เริ่มต้นจากคน ๆ เดียว โดย Google ริเริ่มจาก Sergey Brin และ Larry Page,Microsoft : Bill Gates และ Paul Allen, และ Apple : Steve Wozniak และ Steve Jobs หากคุณเห็นรายชื่อบริษัทยักษ์ใหญ่เหล่านี้ แล้วเกิดฮึกเหิมชวนเพื่อนซี้หรือคนรักลงขันทันที นั่นก็คงไม่ใช่ความคิดที่ดีเสมอไป หากคิดเพียงว่า เพื่อกันทำด้วยกันเพียงใช้ใจแลกใจ คงจะไมไ่ด้ และหากมีการวางแผนที่ไม่เพียงพอ…

เมื่อคุณโตขึ้น คุณต้องเผชิญกับการใช้ชีวิตในสังคมขนาดใหญ่ขึ้นตามไปด้วย หรือแม้ว่าคุณจะเป็นคนอินโทรเวิร์ต ก็น่าจะไม่สามารถหลีกเลี่ยงการพบปะและต้องมีปฏิสัมพันธ์กับผู้คนรอบข้าง สิ่งเหล่านั้น.. อาจก่อให้เกิดสิ่งที่เรียกว่า “ความสัมพันธ์” และความสัมพันธ์จะเป็นเชื้อไฟเพิ่มความผูกพัน ความสนิทชิดเชื้อ ไปจนเกิดเป็นความรักได้ แต่ความสัมพันธ์ก็ใช่ว่าจะมีโพสิทีฟ คุณคงเคยได้ยินคำว่า “ความสัมพันธ์เป็นพิษ” หรือ toxic relationship มาบ้างใช่ไหม ?.. ความสัมพันธ์แบบท็อกซิกคือหนึ่งในความสัมพันธ์ที่อยู่ในรูปแบบเนกาทีฟ แต่ยังไม่ถึงกับพังทลาย เปรียบเหมือนพิษในร่างกายที่จะค่อย ๆ กัดกินจนสิ่งมีชีวิตจะสูญสลาย ความสัมพันธ์แบบท็อกซิกนี้ ถ้าคุณเจอกับตัวเองและรู้ตัวได้เร็วก็ควรรีบปลีกตัวถอยห่างให้ไว ก่อนพิษร้ายจะทำลาย แต่ถ้าหากไม่รู้ตัวว่าอยู่ในขั้นท็อกซิกหรือยัง ลองอ่านข้อสรุปต่อไปนี้ที่เราย่อยมาให้อ่านง่าย ๆ เพื่อให้คุณสำรวจว่าความสัมพันธ์ที่คุณมีอยู่กับคนรอบข้างตอนนี้เป็นอย่างไรบ้าง ถ้ามันติดพิษจะได้รักษาทัน ทำความเข้าใจ toxic relationship ความเป็นพิษที่ควรถอย คำว่า toxic relationship สรุปใจความสั้น ๆ ได้ว่าความสัมพันธ์เป็นพิษดังที่กล่าวไปแล้ว ง่าย ๆ คือ.. คุณจะรู้สึกว่าอยู่กับคน ๆ นี้แล้วไม่มีความสุข อยู่แล้วไม่มีความสบายใจ อยู่แล้วไม่ได้เป็นตัวเอง ซึ่งสิ่งเหล่านี้ทุกคนสามารถเจอได้บ่อยครั้ง แต่ก็จะมีบางรูปแบบที่ควรจะถอยให้ห่างให้ไว หรือเลิกคบไปได้เลยก็ได้ยิ่งดี โดยคนลักษณะท็อกซิกที่คุณควรรู้นั้นมีดังต่อไปนี้ 1. คนที่ทำร้ายร่างกายและทำร้ายจิตใจ ในความสัมพันธ์การทำร้ายฝ่ายตรงข้ามไม่ว่าจะด้วยร่างกายหรือทำร้ายด้วยจิตใจ นับว่าเป็นสิ่งที่ไม่ควรทำอย่างยิ่ง และไม่ควรอยู่ในทุก ๆ ความสัมพันธ์ เพราะจะเป็นการบั่นทอนพลังงาน บั่นทอนความเป็นตัวตนของคุณ อีกทั้งยังสามารถสร้างความทรงจำที่เป็นปมและอาจส่งผลต่ออนาคตได้ ถ้าหากคุณเจอคนลักษณะนี้ต้องรีบเลิกคบด่วน หรือรีบหนีไปให้ไกลได้ก็ยิ่งดี เพราะตัวตนของคุณจะสามารถเปลี่ยนไปจากการโดนสิ่งเหล่านี้ได้ 2. คนที่ใช้อำนาจอยู่เหนือกว่าคนอื่น ในความสัมพันธ์ที่มีการใช้อำนาจที่เหนือกว่า จะทำให้ผู้ที่อยู่ด้วยต้องเกรงกลัว และมันจะลดทอนคุณค่าของตัวคุณเองไปอย่างมาก เพราะคุณคงต้องยอมทุกเรื่องเพื่อให้ตัวเองรู้สึกปลอดภัย แต่ความจริงแล้วการที่ต้องทำตามผู้ที่มีอำนาจนับว่าเป็นความสัมพันธ์ toxic ที่สามารถพบได้บ่อยในคู่รักเป็นอย่างมาก ถ้าหากอยู่ไปแล้วไม่มีความสุข ไม่มีคุณค่า แนะนำว่าให้รีบถอยออกมาจะเป็นการดีที่สุด ถ้าคุณเป็นหนึ่งคนในข้อนี้และยังขาดความมั่นใจในการที่จะถอยออกมา แนะนำว่าให้ลองมาสำรวจความรู้สึกและค้นหาคุณค่าของตัวเองดูก็จะถอยได้ง่ายขึ้น…

เพื่อน ๆ รู้หรือไม่ ข้อมูลจากกระทรวงสาธารณสุขบอกไว้ว่าประชากรในบ้านเรา กลุ่มคนไทยวัยสร้างตัวที่เฉลี่ยอายุ 34 ถึง 35 ปีขึ้นไป ประสบปัญหาโรคเมตาบอลิกซินโดรมมากขึ้นทุกปี ๆ หรือที่พวกเราเรียกกันติดปากว่า “อ้วนลงพุง” ฟังดูเผิน ๆ อาจคิดว่า อ้วนลงพุง ก็แค่พุงใหญ่ขึ้น ร่างกายเปลี่ยนไปแค่นั้นหรือเปล่า ? คำตอบคือ เปล่าเลย ! และไม่ใกล้เคียงด้วยซ้ำ การอ้วนลงพุงเป็นสัญญาณเริ่มต้นของโรคเบาหวาน แถมโปรโมชั่นโรคหลอดเลือดหัวใจ โรคหลอดเลือดสมอง หรือ สโตรก ซื้อหนึ่งแถมสอง ไม่ได้ขู่ เราเป็นห่วงทุกคน ถ้าไม่ดูแลสุขภาพและป้องกันโรคอ้วนลงพุงเสียแต่ตอนนี้ อาจบานปลายในอนาคต สังเกตตัวเองกันก่อน.. อ้วนลงพุง หรือยัง ?! โรคเมตาบอลิกซินโดรมหรืออ้วนลงพุง จะมีอาการร่วมกัน 3 จาก 5 ในรายการดังต่อไปนี้ อ้วนเกิน สังเกตได้ในผู้ชายที่มีขนาดรอบเอวมากกว่า 36 นิ้ว และ 32 นิ้วสำหรับหญิงความดันโลหิตสูง ภาวะปกติต้องวัดได้สูงกว่า 130/85 mm Hg หรือกินยาลดความดันฯ อยู่น้ำตาลในเลือดสูง วัดได้ตั้งแต่ 100-110 mg/dl ขึ้นไป ซึ่งส่อได้ว่าเป็นภาวะต้านอินซูลินไตรกลีเซอไรด์สูง ตั้งแต่ 150 mg/dl ขึ้นไปโคเลสเตอรอลดี เอชดีแอลต่ำ น้อยกว่า 40 mg/dl ในผู้ชาย และ ผู้หญิงอยู่ที่ 50 mg/dl ข้อ (1) สำคัญมาก และขอเน้นย้ำให้เพื่อน ๆ ทดสอบข้อนี้เป็นอย่างแรก…

ถ้าหากใครนั่งติดอยู่กับโต๊ะทำงาน นั่งหน้าจอคอมพิวเตอร์ตลอดวัน หรือสาวก “มนุษย์เงินเดือน” แบบเรา ๆ ที่ทำงานวันนึงต่อเนื่อง 8 ชั่วโมงไม่ได้พัก หรือมีการเปลี่ยนอิริยาบถน้อยมากในแต่ละวัน ไม่ต้องแปลกใจ.. คุณก็คือคนนึงที่กำลังเสี่ยงหรืออยู่ในสภาวะของ โรคออฟฟิศซินโดรม เสียแล้ว โรคยอดฮิตของชาวออฟฟิศ โดยลักษณะอาการของคนที่เป็นโรคชนิดนี้เกิดจากการใช้มัดกล้ามเนื้อ และเยื่อพังผืดที่เดิมซ้ำ ๆ จนทำให้เกิดการอักเสบของกล้ามเนื้อส่งผลให้ปวดในระยะยาว และถ้าหากมีการดูแลไม่ดีพอ หรือไม่ได้รับการแก้ปัญหาอย่างถูกวิธี โรคนี้อาจลุกลามเรื้อรังได้ ถึงตอนนั้นอาจเป็นเรื่องใหญ่ให้เปลืองสตางค์ถึงขั้นผ่าตัดเลยก็มั ดังนั้นอย่านิ่งนอนใจ สุขภาพของคุณควรมาเป็นอันดับหนึ่ง ว่าแล้วก็ลองไปสังเกตุอาการกันก่อนเพื่อหาแนวทางรักษาและการป้องกันต่อไป.. เช็กลิสต์ ! โรคออฟฟิศซินโดรม เป็นตรงไหนได้บ้างและต้องดูแลอย่างไร 1. ปวดคอ บ่า ไหล่ สะบัก สำหรับอาการ โรคออฟฟิศซินโดรม ที่สามารถเจอได้บ่อยนั่นก็คือ อาการปวดคอ บ่า ไหล่ สะบัก หรือก็คือส่วนด้านบน ที่อาจจะเกิดได้จากการทำงานในโต๊ะที่ไม่ตรงตามสรีระของร่างกาย หรือก็คือนั่งหลังค่อม คอยื่นเป็นเวลานาน ๆ  วิธีรักษา : ทายาแก้ปวด, นวดแผนไทยให้กล้ามเนื้อคลาย, ทำกายภาพบำบัด เช่น เครื่อง Shock Wave วิธีป้องกัน : ปรับท่านั่งให้ถูกหลักโดยด่วน และทุกเช้า – เย็น ให้ทำการยืดเส้น โดยเริ่มได้จากใช้มือข้างซ้ายจับที่ศีรษะดันมาที่ด้านซ้ายแล้วให้บ่าตึงที่ด้านขวา (ทำสลับกัน), ให้ใช้มือข้างที่ถนัดกดศีรษะมาด้านหน้าและเงยขึ้น, ให้จับศีรษะหันหน้า 45 องศา (ทำสลับกัน) อย่างละ 15 ครั้ง 2. ปวดหลัง ในส่วนของอาการปวดหลังก็สามารถพบเจอได้บ่อยเช่นเดียวกัน ส่วนมากจะมีอาการบริเวณช่วงหลัง หรือไล่ไปแนวบริเวณด้านข้างกระดูกสันหลัง โดยอาการปวดหลังอาจเกิดได้จากนั่งไม่เต็มก้น นั่งเลื่อย…

Life insurance has several benefits, but it’s not right for everyone. เราทุกคนต่างรู้ดีว่า ประกันชีวิต เป็นต้นทุนคงที่ที่กินสัดส่วนค่าใช้จ่ายภายในครอบครัวค่อนข้างมาก เผลอ ๆ เป็นรายจ่ายก้อนใหญ่ที่รองลงมาจากการซื้อบ้าน ที่ดิน เลยก็ว่าได้ ยกตัวอย่าง หากเราจ่ายค่าเบี้ยประกันประมาณปีละ 3 หมื่นบาท หากจ่ายติดต่อกัน 30 ปี รวมเท่ากับ 9 แสนบาท ถ้าบางเเพคเกจปีละ 4 หมื่นบาทบวก ๆ จ่ายตลอด 30 ปี ยอดรวมก็ทะลุล้านไปแล้ว ประกันบางแห่งชอบทำแผนค่าใช้จ่ายมาให้เห็นภาพว่ามีจำนวนเล็กน้อยเมื่อเฉลี่ยเป็นรายเดือน แต่หากรวมเบี้ยประกันที่จ่ายไปทั้งหมดกลับพอกพูดในชั่วพริบตา ซื้อเพื่อเก็บออม ไม่ใช่ซื้อไว้ก่อน มีคนจำนวนมากไม่รู้ว่าหากลงทะเบียนในระบบเงินบำนาญแห่งชาติหรือกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ ครอบครัวผู้เสียชีวิตจะได้รับเงินบำนาญพื้นฐานหรือเงินทุนสำรองเลี้ยงชีพ และบางคนก็ไม่ทราบว่าประกันสุขภาพครอบคลุมการรักษาพยาบาลขั้นสูงซึ่งมีราคาแพงเกือบทั้งหมด สิ่งสำคัญประการแรกคือ ต้องขยันรวบรวมข้อมูล นอกจากนี้ให้คิดพิจารณาว่า “จำนวนเงินเอาประกันภัยที่จำเป็นจริง ๆ คือเท่าไหร่” “ต้องจ่ายเบี้ยประกันภัยเท่าไหร่และเมื่อใด” เพราะหลักการของเรื่องนี้ไม่ใช่เพียงคิดว่า “แค่ประกัน ซื้อไปแล้วกัน” แต่ต้องคิดว่า “เก็บเงินก่อนแล้วค่อยซื้อประกันเสริมในส่วนที่ครอบคลุมไม่หมด” คงจะดีกว่า… ประกันชีวิตอาจไม่ต่างจากการพนัน ทำไมกล่าวเช่นนั้น ! ประกันชีวิต เหมือนการพนันอย่างนั่นหรือ !? ประกันชีวิต คือการจ่ายเบี้ยประกันในจำนวนที่ต้องการในช่วงเวลาที่หากเกิดเหตุไม่คาดฝันขึ้นกับคุณ แล้วคนอื่นจะลำบาก คำถามคือแล้วช่วงเวลานั้น มันคือตอนไหน ? สำหรับคนส่วนใหญ่ก็จะคิดว่าคือช่วงที่ลูกยังเด็กทำให้คู่สมรสไม่สามารถหาเวลาไปทำงานหาเงินได้มากนัก หรือกินเวลาประมาณ 20 ปี จนกว่าบุตรของคุณจะบรรลุนิติภาวะ ยืนได้ด้วยลำแข้งตนเอง ซึ่งนั่นก็หมายความว่า หากคุณเป็นคนโสดก็แทบจะไม่มีความจำเป็นต้องทำประกันชีวิต เพราะไม่มีคนข้างหลังคุณที่จะต้องเดือดร้อนหากเกิดเหตุไม่คาดฝัน หรือนอกจากนี้ในกรณีที่คู่สมรสก็ทำงาน คุณก็ไม่มีความจำเป็นต้องทำประกันชีวิตถึงขนาดนั้นเช่นกัน…