การมีชีวิตคู่กับใครสักคนไม่ใช่เรื่องยาก แต่การมี “คู่ชีวิต” ที่รวมหัวจมท้ายไปด้วยกันเป็นอะไรที่ยากกว่า และการที่จะเป็นเช่นนั้น มันต้องเกิดขึ้นจากคนสองคน ที่ต้องทำความเข้าใจกัน ยอมรับซึ่งกันและกัน และมีหัวใจให้กันและกัน นับเป็นเรื่องยากมาก ๆ ที่จะหาคน ๆ นั้นเจอ บางครั้งก็ทำให้ชีวิตถึงกับเป๋ไปอีกทาง แต่ถ้าหากมีคู่ที่ดีมาก ๆ ก็นับว่าเป็นโชคดีอย่างหนึ่ง ที่คุณอาจได้พบอะไรที่เหนือความคาดหมาย แล้วการมีคู่ชีวิตที่ดีนั้นมีชัยไปกว่าครึ่งอย่างโบราณว่าไว้นั้นจริงหรือ ? ไปหาคำตอบกัน !..

If you live to be a hundred, I want to live to be a hundred minus one so I never have to live without you.

ถ้าเธออยู่ถึงร้อยปี ฉันอยากอยู่ให้ได้แค่ร้อยลบหนึ่งวัน เพื่อที่ฉันจะได้ไม่ต้องอยู่โดยไม่มีเธอแม้แต่วันเดียว

มีคู่ชีวิตดี..มีชัยไปกว่าครึ่ง ใช่เรื่องจริงหรือ ?!

ถ้าหากคุณสังเกตคนที่เป็นคนใหญ่คนโต หรือคนดังไม่ว่าจะสายอาชีพไหน ส่วนใหญ่พวกเขาจะมีคนอีกคนคอยอยู่เคียงข้างเสมอ และช่วยกันผลักดันกันและกัน จนนำไปสู่เป้าหมายที่ทั้งสองได้ตั้งไว้ และทำให้ประสบความสำเร็จมากมาย ยกตัวอย่างคู่รัก Workaholic อย่าง บารัค โอบามา และมิเชลล์ภรรยาของเขา ที่คอยอยู่เคียงข้างและสนับสนุนอดีตประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกาคนนี้เสมอ จึงไม่ใช่เรื่องแปลกใจเลยว่าทำไมเขาทั้งสองถึงกลายเป็นคู่ชีวิตที่ดี..มีชัยไปกว่าครึ่ง เพราะทั้งคู่ต่างช่วยเหลือซึ่งกันและกันในการพัฒนาประเทศตอนที่ยังดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ให้เป็นไปอย่างครรลองครองธรรม จนมิเชลล์ได้รับฉายา “สุภาพสตรีหมายเลขหนึ่ง” ไปอย่างไม่มีที่ติ ซึ่งนับว่าเป็นคู่สร้าง คู่สมที่เหมาะเป็นตัวอย่างของคนทั้งโลก

Image by wirestock on Freepik

วิธีสังเกตคู่ชีวิตที่ดี ตามหลักศาสนาพุทธ

จากคำตอบที่ได้ก่อนหน้านี้ว่า “มีคู่ชีวิตที่ดี..มีชัยไปกว่าครึ่ง” นับว่าเป็นเรื่องจริง แต่สิ่งที่ดีของแต่ละคนก็จะนิยามแตกต่างกันไป เพราะเราทุกคนบนโลกใบนี้ไม่มีทางเหมือนกัน และเรื่องสิ่งที่ดีหรือไม่ดีนั้น สามารถสังเกตกันได้ยากแบบสุด ๆ เลยจำเป็นต้องนำหลักศาสนาพุทธที่ได้มีการระบุชัดเจนว่า ถ้ามีชีวิตคู่ที่ “สม” กันจะต้องมี 4 อย่างนี้เหมือนกัน โดยรายละเอียดมีดังต่อไปนี้

1. ศีล

สำหรับใครที่นับถือศาสนาพุทธ อาจจะรู้จักคำว่า “ศีล 5” กันอยู่แล้ว โดยศีลที่ว่านี้ คือ ตัวกำหนดที่ทำให้คนเราใช้ชีวิตได้อย่างปกติ สามารถลดเรื่องราวร้าย ๆ ที่เกิดขึ้นกับชีวิตได้ โดยศีล 5 นั้น ได้แก่ ไม่ฆ่าสัตว์ตัดชีวิต, ไม่ลักเล็กขโมยน้อย, ไม่ประพฤติผิดในกาม, ไม่พูดโกหก ละเว้นของมึนเมา ถ้าตรงนี้เรามีศีลที่เหมือนกัน ก็สามารถที่จะไปร่วมกันได้ สมมติมีเพียงแค่ 4 ข้อ แต่ 4 ข้อที่มีนั้นเท่ากัน ก็สามารถไปด้วยกันได้นั่นเอง เพราะเมื่อมีศีลเสมอกันก็จะทำให้ความคิด พฤติกรรมมีลักษณะคล้ายคลึงกันได้

2. ศรัทธา

ในการที่มีคู่ชีวิตจะต้องมีศรัทธา หรือ “ความเชื่อ” ที่เหมือนกัน ความเชื่อนี้ขึ้นอยู่แต่ละคนเลยว่าจะนิยามไปทางไหน อาจจะเป็นความเชื่อทางศาสนา ความเชื่อในเรื่องพิธีกรรม ความเชื่อในด้านวิทยาศาสตร์ ความเชื่อเรื่องผีสางนางไม้ หรือความเชื่อในด้านอื่น ๆ ที่ทั้งคู่เหมือนกัน ก็จะสามารถทำให้ใช้ชีวิตคู่ได้ง่ายยิ่งขึ้น หรือก็คือใช้ภาษาเดียวกัน คุยกันได้ง่ายมากขึ้น และสามารถเข้าใจกันและกันได้มากขึ้น หากตรงนี้ไม่เหมือนกันแล้ว และต่างคนต่างขัดความเชื่ออีกฝ่าย สักวันนึงจะต้องแยกจากกันอย่างแน่นอน

3. ปัญญา

ปัญญาในที่นี้ไม่ได้หมายถึง “ความฉลาด” เท่านั้น แต่หมายถึงความรู้ ความคิดความอ่านที่มีความเสมอภาคต่อกัน หรือก็คือมีความใกล้เคียงเสมอกัน ที่จะช่วยทำให้พูดคุยสื่อสารกันอย่างรู้เรื่อง สามารถพัฒนาความสัมพันธ์คู่ชีวิตให้ดีมากยิ่งขึ้น เมื่อเจอปัญหาก็สามารถฝ่าฟันอุปสรรคไปด้วยกันได้ หรือว่าง่าย ๆ คือ การมีปัญญาเท่ากัน จะสามารถลดความขัดแข้งของคนสองคนได้ และพร้อมจับมือไปด้วยกันได้ง่ายดายยิ่งขึ้น 

4. จาคะ 

คำว่า “จาคะ” หมายถึง ความเสียสละหรือการแบ่งปัน ที่อาจจะเกิดขึ้นได้ในคู่ชีวิตของตนเอง ที่จะแบ่งปันอะไรหลาย ๆ อย่างในปริมาณที่เท่ากันหรือใกล้เคียงกันในระดับที่ทั้งคู่พึงพอใจ หรืออาจจะเป็นการเสียสละ และแบ่งปันให้ผู้อื่นในปริมาณที่ทั้งคู่เห็นพ้องต้องกัน เช่น การซื้ออาหารบริจาคให้กับสุนัข การให้เงินบริจาคผู้ยากไร้ ถ้าตรงนี้มีความไม่เท่ากัน จะทำให้เกิดปัญหาในอนาคตอย่างแน่นอน ประหนึ่งว่าความคิดเห็นไม่ตรงกันนั่นเอง

Image by kuritafsheen77 on Freepik

ทั้งนี้สำหรับหลักศาสนาพุทธเป็นการนิยามอย่างหนึ่งเรื่อง “คู่ชีวิต” ที่ดี ที่ต่อให้แม้ทั้ง 4 ข้อไม่เหมือนกัน แต่ถ้าทั้งคู่ตกลงที่จะฝ่าฟันก็สามารถทำให้เหมือนกันทั้ง 4 ข้อตามที่ได้กล่าวไปได้ นอกจากนี้แท้จริงแล้วยังมีนิยามอื่น ๆ อีกมากมายที่สามารถค้นหา เพื่อพิสูจน์ว่าคนที่คุณคบด้วยอยู่นั้นใช่คู่จริงกันหรือไม่ สิ่งเหล่านี้อาจไม่จำเป็นต้องมีทฤษฎีมากมาย แต่แนะนำว่าให้ลงมือปฏิบัติ และสังเกตคนที่จะใช้ชีวิตร่วมกันไปก็ได้ก็พอ ใช้ใจเชื่อมใจ พัฒนาความสัมพันธ์ร่วมกัน และพัฒนาชีวิตทั้งสองคนให้ก้าวไปข้างหน้า

คู่ชีวิต แท้จริงต้องมีกันทุกคนหรือไม่ ?!

สรุปแล้ว การมีคู่ชีวิตที่ดีนับเป็นสิ่งหนึ่งที่มีค่าในชีวิต แต่ใช่ว่าจำเป็นต้องขวนขวายอยากจะครอบครอง เพราะทุกคนไม่จำเป็นต้องมีชีวิตคู่เสมอไป การมีชีวิตคู่อาจเป็นการเติมเต็มกันและกัน ให้พลังบวกซึ่งกันและกัน ช่วยเหลือในยามยากลำบาก และสามารถซัพพอร์ตกันไปได้เสมอ แต่ใช่ว่าตัวคนเดียวไม่สามารถทำเช่นนั้นได้เลย เพราะแน่นอนว่าตัวคนเดียวก็สามารถให้พลังงานดี ๆ และสามารถเติมความรักให้ตัวเองได้อย่างเต็มที่ สุดท้ายถ้าใครมีคนข้างตัวที่ดีอยู่แล้ว ขอจงรักษาและดูแลไว้ให้ดีอย่างมีสติ

Cover Image : Image by wirestock on Freepik

Credits : Quote by https://www.shutterfly.com/ideas/i-love-you-quotes


คอร์สอบรมแนะนำจาก อบรมดอทคอม

Exit mobile version