*Trendy Now

ชั่วโมงนี้ไม่มีใครกล้าปฏิเสธความร้อนแรงของ House of the Dragon ซีรีส์ยอดนิยมส่งท้ายปี ดีไม่แพ้ซีรีส์ในสตอรี่ไลน์เดียวกันอย่าง Game of Thrones และเชื่อไหมว่า.. เพียงแค่ซีซันที่หนึ่งก็สามารถโกยสกอร์จากบ้าน imdb ไปถึง 8.6/10 และจาก Rotten Tomatoes 86% หากคุณเป็นคนนึงที่ได้ดูซีรีส์เรื่องนี้แล้ว จะเห็นว่าตัวละครใน House of the Dragon มีความโดดเด่นและบุคลิกลักษณะที่แตกต่างกันอย่างน่าสนใจ ความรู้สึกนึกคิดและการกระทำของตัวละครนึงมักพาคุณไปเจอประเด็นต่าง ๆ ที่น่าตื่นเต้น ซับซ้อนแต่ก็สอดประสานกันได้อย่างสนุก…

*รักโลก รักสุขภาพ

หลายครั้งพฤติกรรมบางอย่างที่แสดงออกมา เราก็ไม่เข้าใจตัวเองว่าทำไมถึงทำแบบนั้น จนทำให้สถานการณ์ที่เป็นอยู่ หรือความสัมพันธ์กับคนรอบข้างแย่ลง หรือแม้แต่ตัวเองก็ไม่พอใจที่แสดงพฤติกรรมเหล่านั้นออกมา แต่ทุกอย่างสามารถแก้ได้ เพียงแค่เรา “เข้าใจตัวเอง” ให้มากยิ่งขึ้น แต่การจะเข้าใจได้นั้น ก็ต้องมีหลักการหรือทฤษฎีมารองรับเสียหน่อย เพื่อการพัฒนาที่ดีและตรงจุด เราขอแนะนำให้รู้จักกับ Satir Model…

“ดีแต่ป้อ ล่อไม่เป็น” สำนวนแสบ ๆ คัน ๆ ฟังแล้วคันหู เป็นสำนวนที่ช่างเหมาะสมเหลือเกินกับกลยุทธ์สำคัญกลยุทธ์นึงในการขาย ที่ไม่ว่าจะเป็นใครก็ตามที่ทำหน้าที่ พนักงานขาย…

ถอดบทเรียน “ธุรกิจเจ๊ง” เช็คความเสี่ยงว่าธุรกิจคุณเข้าขั้นวิกฤตแล้วหรือยัง ? ปกติแล้วบทความส่วนใหญ่จะให้หนทางทำอย่างไรก็ได้ให้ธุรกิจประสบความสำเร็จ พร้อมแนะนำเคล็ดลับต่าง ๆ มากมาย แต่ถ้าหากคุณกำลังเริ่มต้นทำธุรกิจหรือทำธุรกิจแล้วกำลังประสบกับความเสี่ยงในการทำให้ ธุรกิจเจ๊ง…

โลกธุรกิจยุคดิจิทัลทุกวันนี้.. การแข่งขันสูง ต้องแข่งกับเวลา วิธีบริหารแบบเดิมที่เน้นวางแผนกลยุทธ์ให้แน่นอนก่อนแล้วค่อยลงมือทำ ถือว่าช้าเกินไปและใช้ไม่ได้ผลดีกับยุคนี้แล้ว ซึ่งปัญหานี้ก่อให้เกิดโซลูชันการบริหารแบบใหม่ คือ “การบริหารด้วย Business Model…

แม้ว่าสงครามและโรคระบาดจะเริ่มซาลงกว่าแต่ก่อน ทว่ากระแสเทรนด์ดิจิทัลก็ยังคงมาแรงไม่หยุดยั้ง เพียงไม่ทันไรโลกของเราก็เริ่มพลัดเปลี่ยนจาก Digital Marketing (DM) สู่ Metaverse Marketing (MM)…

ธุรกิจเริ่มปัง จะ จดทะเบียนบริษัท แบบไหนดี ? ทุกคน ทุกคนรู้มั๊ยว่าทุกวันนี้การเริ่มทำธุรกิจไม่ใช่เรื่องยากเหมือนในอดีต เพราะเทคโนโลยีมีส่วนสำคัญในการผลักดันธุรกิจให้เดินไปข้างหน้าได้อย่างรวดเร็ว แต่ก็ไม่ใช่ว่าเริ่มต้นแล้วจะสำเร็จทุกรายหรอกนะ ดังนั้นก่อนเริ่มทำธุรกิจ…

Business knowledge 77%
Technology 71%
Self development 90%
Potential improvement 86%

Athena new release

ถอดบทเรียน “ธุรกิจเจ๊ง” เช็คความเสี่ยงว่าธุรกิจคุณเข้าขั้นวิกฤตแล้วหรือยัง ? ปกติแล้วบทความส่วนใหญ่จะให้หนทางทำอย่างไรก็ได้ให้ธุรกิจประสบความสำเร็จ พร้อมแนะนำเคล็ดลับต่าง ๆ มากมาย แต่ถ้าหากคุณกำลังเริ่มต้นทำธุรกิจหรือทำธุรกิจแล้วกำลังประสบกับความเสี่ยงในการทำให้ ธุรกิจเจ๊ง…

คอร์สอบรมนี้สอนอะไร ? Convincing จิตวิทยาและวาทศิลป์ในการโน้มน้าวใจ “เคล็ดลับ! การโน้มน้าวใจคนให้สำเร็จ ด้วยเทคนิคเชิงจิตวิทยาและศิลปะการพูด”หลักการและเหตุผลการดำเนินธุรกิจในปัจจุบันหลากหลายองค์กรต่างเห็นความสำคัญถึงการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์”บุคลากร”ทางด้านทัศนคติกระบวนการความคิดให้เกิดความสุขในการทำงาน องค์กรจึงต้องนำศาสตร์และศิลป์ทางจิตวิทยามาประยุกต์ใช้ในการวางแผน บริหารจัดการ การจูงใจ การเจรจาต่อรอง…

คอร์สอบรมนี้สอนอะไร ? หลักสูตร Generative AI for Productivity เรียนออนไลน์ผ่าน Zoom Meeting…

เปิดรับสมัครแล้ว คอร์สเรียนออนไลน์ “ก้าวแรกสู่ การพูดในที่สาธารณะ” คอร์สเรียนทักษะการพูดในที่สาธารณะที่โฟกัสตรงจุด ทำให้คุณพัฒนาทักษะการพูดเป็นเร็วขึ้น SPEAK SPARK ได้กลั่นกรอง “ศาสตร์และศิลป์”…

คอร์สอบรมนี้สอนอะไร ? การกำหนดเป้าหมายและตัวชี้วัดผลงานขององค์กรเพื่อให้ได้งานเชิงพัฒนามากขึ้น หลายองค์กรได้เลือกทำการปรับปรุงแนวทางการกำหนดตัวชี้วัดผลงานเช่น KPIs โดยเปลี่ยนไปเป็นการตั้งเป้าหมายในเชิงพัฒนา รวมทั้งการกำหนดตัวชี้วัดผลงานแบบที่มุ่งเหตุที่ทำให้เกิดผล และผลลัพธ์ปลายทางที่ต้องการ มากกว่าที่จะตั้งตัวชี้วัดผลงานแบบงานประจำ และตัวชี้วัดผลงานที่มุ่งวัดผลเบื้องต้นเท่านั้น…

คอร์สอบรมนี้สอนอะไร ? ทําความรู้จักกับไคเซ็น (KAIZEN) เครื่องมือที่ช่วยในการทําไคเซ็นในสํานักงาน หมวดหมู่ งานบุคคล HR การทำงาน…

ดาเมจรุนแรงมากสำหรับกระแส Sustainability รณรงค์ให้คนหันมาดูแลสิ่งแวดล้อมกันมากขึ้น กระแสพุ่งตรงแรงที่ตั้งแต่ระดับตัวบุคคล ครอบครัว คนรักสุขภาพมากขึ้นและก็รักษ์โลกไปด้วย ไปจนถึงระดับอุตสาหกรรมขนาดเล็ก-ใหญ่ บริษัทแบรนด์ใหญ่ ๆ รีแบรนด์ตัวเองให้เป็นสาวก Eco Friendly ออกแคมเปญโปรโมท Sustainability มากมาย ตลอดจนการลงทุนาสร้างโปรเจคอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมที่ไม่แสวงหาผลกำไร และแน่นอนว่ามันคีพคูลเข้ากับเทรนด์ Eco Friendly ในเจเนอเรชั่นนี้มาก…

ก่อนอื่นต้องบอกก่อนว่า.. ก่อนที่คุณจะศึกษา วิธีเข้าสังคม เพื่อขยายคอนเนคชั่นของวงสังคมให้กว้างขึ้น คุณจำเป็นที่จะต้องรู้จุดประสงค์ในการหาคอนเนคชั่นนั้นเสียก่อน ซึ่งการหาคอนเนคชั่นมีได้หลายวัตถุประสงค์ เช่น อาจจะเป็นเรื่องของการหาคนมาเพื่อสนับสนุนธุรกิจ การหาคนมาเป็นหุ้นส่วนเพื่อการลงทุน หรือเป็นการหาคนที่อยู่สายงานเดียวกันเพื่อต่อยอดสิ่งใดสิ่งหนึ่งในงานนั้น การแสวงหาคนรู้จักให้มากขึ้นเพื่อขยับขยายตำแหน่งในสายงาน ตลอดจนไปถึงการหาฐานลูกค้าใหม่ ๆ หรือแม้แต่ทำความรู้จักไว้ก่อนเผื่อในอนาคตอาจจะได้ร่วมงานกัน สิ่งเหล่านี้เป็นจุดเริ่มต้นในการอ่านบทความนี้เพื่อให้สามารถเรียนรู้ วิธีเข้าสังคม เพื่อหาคอนเนคชั่นและสร้างเครือข่ายให้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ และเมื่อคุณกำหนดวัตถุประสงค์เป็นที่เรียบร้อย เราจะเริ่มเรียนรู้ไปด้วยกันกับวิธีการดังต่อไปนี้.. 7 วิธีเข้าสังคม เพื่อการหาคอนเนคชั่นแบบมีประสิทธิภาพ 1. หาคอร์สเรียนที่คุณสนใจ หรือเกี่ยวข้องกับธุรกิจในระยะสั้น ๆ  สิ่งแรกที่อยากให้คุณทำเพื่อเพิ่มคอนเนคชั่นได้เป็นอย่างดี ก็คือการลงคอร์สเรียนต่าง ๆ ในหมวดหมู่ที่ตัวเองสนใจ หรืออาจจะลงคอร์สเรียนเกี่ยวกับธุรกิจสายงานของคุณเพื่อเพิ่มความรู้ได้อยู่เหมือนกัน โดยแนะนำคอร์สเรียนที่คนเรียนไม่เยอะ แนะนำว่ามากสุดไม่ควรเกิน 15 คน เพื่อที่จะได้รู้จักกับทุกคนว่าเป็นใคร ทำงานเกี่ยวกับอะไร และแน่นอนว่าอย่าลืมที่จะของคอนแทคไว้ติดต่อด้วย เผื่อวันหนึ่งคุณอยากจะขอความช่วยเหลือหรือให้ความช่วยเหลือได้ และอีกอย่างทางคนเปิดสอนอาจตั้งกลุ่มไว้ทำให้เราสามารถติดต่อข่าวสารได้ตลอด 2. เข้าสัมมนาที่เกี่ยวกับธุรกิจ วิธีเข้าสังคม ที่ตรงกับสกิลของคุณ สำหรับวิธีเข้าสังคมที่จะเข้าถึงคนในแวดวงธุรกิจเดียวกันที่ดีที่สุดคือการเข้าสัมมานาหรือ คอร์สอบรม ที่อาจจะเป็นบริษัทหรือที่ทำงานของคุณเป็นผู้จัด หรืออาจจะเป็นการสัมมนาหรืออบรมนอกสถานที่ ที่เราจะเห็นได้ว่าจะมีงานสัมมนามากมายที่มีทั้งฟรีหรือไม่ก็เสียเงินให้เข้าไปเรียนรู้ ในจุดนี้การจะหาคอนเนคชั่นในคนหมู่มากอาจจะยากหน่อย แต่ก็ให้เริ่มจากพูดคุยกับคนใกล้เคียง หรือทำกิจกรรมร่วมกันได้เพื่อสร้างความสนิทสนม 3. ออกไปทำกิจกรรมแบบกลุ่ม วิธีเข้าสังคมเพื่อหาคอนเนคชั่น ไม่จำเป็นที่จะต้องเกี่ยวกับงานหรือธุรกิจเสมอไป คุณสามารถออกไปทำกิจกรรมที่ตัวเองชื่นชอบ อาจเป็นเรื่องของงานอดิเรก เช่น วาดรูป จัดดอกไม้ วิ่ง ปั่นจักรยาน ตั้งกลุ่มไปเที่ยวกับคนไม่รู้จัก ทำพิธีการทางศาสนา หรือแม้แต่การเป็นจิตอาสาเพื่อช่วยเหลือผู้คนก็จะสามารถพบเจอคนใหม่ ๆ ได้เช่นเดียวกัน ซึ่งหากคุณออกไปทำกิจกรรมมากเท่าไหร่ คุณก็จะขยับขยายสังคมในด้านต่าง ๆ ได้มากเท่านั้น 4. การใช้ Linkedin.com ในการหาคอนเนคชั่นใหม่ ๆ สำหรับใครที่ต้องการหาคอนเนคชั่นหรือต้องการพรีเซนต์ตัวเองด้วย การเลือกใช้ Linkedin.com…

คนหนุ่มสาววัย 25 ถึง 35+ ปลาย ๆ นี่คือช่วงวัยของการก่อร่างสร้างตัว ขะมักเขม้นกับการทำงานเพื่อความมั่นคง และสนุกกับการค้นหาตัวเอง ได้ทำอะไรใหม่ ๆ ซึ่งแน่นอนว่าแพสชั่นเหล่านั้นแลกมาด้วยพลังงานที่ต้องสูญเสียไปกับร่างกายที่กรำศึก สมองที่ต้องคิด หัวใจที่ต้องอดทน กล้ามเนื้อที่ต้องออกแรงแข็งขัน และถ้าหนุ่มสาวคนหนึ่งคนใดหลงลืมหันกลับมามองว่าสุขภาพร่างกายและจิตใจของพวกเขาเหล่านั้นถดถอยไปเท่าไหร่แล้วละก็.. แม้แต่เงินตราความสำเร็จที่หามาได้ ก็ไม่อาจทดแทนความเสื่อมโทรมของสุขภาพที่เสียไป.. ใด ๆ ในโลกล้วนต้องแลกเปลี่ยน และหากคุณไม่วางแผนให้ดี การเทรดระหว่างเงินตรา-ความสำเร็จ และสุขภาพร่างกาย-จิตใจ คุณอาจเจอกับสภาวะ “ได้ไม่คุ้มเสีย” เพราะฉะนั้น คุณต้องรู้ทัน ใส่ใจกับการ ดูแลสุขภาพ และเช็คอัพร่างกายอยู่เสมอ รู้ก่อน.. ป้องกันทัน ลุยงานได้เต็มกำลัง ทำความเข้าใจสุขภาพร่างกายและจิตใจเบื้องต้น ผลสำรวจของสวนดุสิตโพลช่วงหลังที่โควิดเริ่มซา พบว่าคนส่วนใหญ่หันมาดูแลสุขภาพกันมากขึ้น ซึ่งเป็นอัตราที่ “เพิ่มขึ้น” กว่าเดิมถึง 70 กว่าเปอร์เซ็นต์ และคงไม่ได้มองโลกในแง่ร้ายมากนักกับการที่ตัวเลขพุ่งสูงขึ้นขนาดนี้ นั่นหมายความว่าพอคนทั่วไปพบวิกฤตการณ์โรคระบาดจึงเพิ่งตื่นตัวมากขึ้นเรื่องการดูแลสุขภาพ ฉันใดก็ฉันนั้น.. หากกลับสู่สภาวะปกติก็เป็นไปได้หรือไม่ว่า คนส่วนใหญ่ก็จะกลับมาละเลยการดูและสุขภาพเหมือนก่อนหน้านี้ ??? ดังนั้นเรื่องของการดูแลสุขภาพร่างกายและจิตใจถือเป็นปัจจัยชี้นำที่ทำให้ชีวิตเป็นไปในทิศทางที่ดีหรือแย่ลงได้ โดยปกติแล้วร่างกายและจิตใจของคนเราหากมีการดูแลจัดการที่ดีและเป็นระเบียบให้คงอยู่ตามสมดุล อาการเจ็บป่วยหรือสาเหตุที่ทำให้เกิดการเจ็บป่วยจะไม่เกิดขึ้น แต่ก็ต้องทำความเข้าใจด้วยว่าเมื่อมนุษย์เราได้เจริญเติบโตอย่างเต็มที่ในช่วงอายุ 20-25 ปี ร่างกายจะเริ่มเข้าสู่ภาวะถดถอยเรื่อย ๆ ดังนั้นการดูแลสุขภาพร่างกายและจิตใจจึงเป็นเรื่องสำคัญมาก ส่งผลต่อการใช้ชีวิต การทำงาน และแน่นอนว่าสุดท้ายแล้วสุขภาพดีก็จะนำมาซึ่งความสุข โรคยอดฮิต ปัญหาสุขภาพ ของคนอายุช่วง 25 – 40 มีอะไรบ้าง เรื่องสำคัญของคนหนุ่มสาววัยทำงานที่ต้องรู้เท่าทัน คือ “โรคยอดฮิต” ของคนทำงาน และนี่ถือเป็นปัญหาสุขภาพของคนอายุ 25 – 40 ปี ที่มักพบได้บ่อย โดยสุขภาพจะมีความสัมพันธ์ระหว่างร่างกายและจิตใจเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว เพื่อที่จะป้องกันไม่เกิดเหตุเกี่ยวกับปัญหาสุขภาพ การรู้ก่อนว่าช่วงวัยทำงานนี้มีปัญหาสุขภาพอย่างไร…

หากคุณเป็นคนนึงที่เพิ่งเรียนจบกำลังจะเริ่มทำงาน หรือเคยทำงานมาแล้วแต่กำลังจะย้ายไปที่ทำงานใหม่ เชื่อว่าคุณต้องมีความประหม่ากับเส้นทางเดินใหม่ของชีวิตนี้อยู่บ้าง ข้อคิดที่น่าสนใจคือ.. คุณที่ได้สวมหมวกพนักงานใหม่ต้องทำอย่างไรที่จะสามารถสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับ “เพื่อนร่วมงาน” คุณควรจะวางตัวแบบไหนให้เหมาะสมกับสังคมและสภาพแวดล้อมใหม่ ๆ เพราะต่อให้งานที่ทำหรือบริษัทจะดีแค่ไหน แต่การสร้างสัมพันธ์กับเพื่อนร่วมงานหรือคอนเนคชั่นก็ถือเป็นสิ่งสำคัญไม่แพ้กัน หากคุณเจอเพื่อนร่วมงานที่ดี พวกเขาก็พร้อมช่วยเหลือ พร้อมผลักดัน หรืออย่างแย่คือต่อให้เขาเหล่านั้นไม่ค่อยโอเคสำหรับคุณ แต่หากคุณอยู่เป็นหรือวางตัวได้อย่างเหมาะสม ก็จะทำให้บรรยากาศการทำงานเป็นไปด้วยดีได้เช่นกัน วิธีง่าย ๆ สร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับ “เพื่อนร่วมงาน” กรณีที่คุณเป็น New Joiner ของบริษัทหรือเพิ่งเข้ามาทำงาน ดังนั้นเนื้อหาส่วนนี้จะแนะนำวิธีการสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับเพื่อนร่วมงานในที่ทำงานใหม่ ซึ่งเป็นอะไรที่สำคัญเป็นอย่างมาก เพราะ First impression จะเป็นสิ่งที่คนเราจดจำได้ดีที่สุดเมื่อได้รู้จักใครบางคน และอาจจะพัฒนาเป็นความสัมพันธ์ในทิศทางที่ดี และอาจเสริมให้หน้าที่การงานให้เป็นไปในทิศทางที่ดีด้วยเช่นกัน ขอให้คุณเปิดใจก่อนศึกษาวิธีดังต่อไปนี้ 1. ทักทายและตั้งคำถามที่รีแล็กซ์ สำหรับใครที่เพิ่งเข้ามาทำงานในวันแรก คุณควรทักทายทุกคนที่จำเป็นต้องทำงานด้วย เราขอเน้นว่า “คนที่ต้องทำงานด้วย” เราไม่ได้อยากให้คุณทักทายใครก็ได้ไปเรื่อย เพราะมันจะดูแปลกประหลาดในสายตาคนอื่นที่มองคุณในฐานะที่เป็นพนักงานน้องใหม่ และอยากให้คุณเน้นเรื่องของการแสดงความจริงใจและรอยยิ้ม นอกจากนี้.. หากสามารถทำได้ก็ขอแนะนำให้ถามเกี่ยวกับการทำงานทั่ว ๆ ไปกับคู่สนทนา ไม่ต้องลงรายละเอียดมากนัก และคุณก็ควรหาจังหวะบอกข้อมูลของตัวเองโดยไม่ต้องลงรายละเอียดมากด้วยเช่นกัน จากนั้นคุณอาจจะลองเริ่มบทสนทนาเรื่องรีแล็กซ์ทั่ว ๆ ไป อย่างเช่นว่า “ปกติกินข้าวกันที่ไหน” “การเดินทางมาทำงานเป็นอย่างไร” สิ่งเหล่านี้คือเบื้องต้นที่ควรจะทำในการสร้างความสัมพันธ์ ในตอนที่เพิ่งเข้าทำงานวันแรก ๆ กับเพื่อนร่วมงาน 2. เสนอความช่วยเหลืออย่างพอดี การให้ความช่วยเหลือเพื่อนร่วมงาน นับเป็นการสร้างความสัมพันธ์ที่ดี แต่อย่าลืมว่าคุณจะต้องทำงานของตัวเองให้เสร็จก่อน และถ้ามีเวลาเหลือก็สามารถเสนอตัวเข้าไปช่วยได้ หรือถ้าหากมีใครต้องการขอความช่วยเหลือ และถ้าคุณสามารถช่วยเหลือได้โดยที่ไม่ทำให้งานของตัวเองเสีย ก็ให้รีบตอบรับในทันที เมื่อรับปากแล้วคุณควรพยายามช่วยเหลืออย่างเต็มที่ ในจุดนี้จะเปิดโอกาสให้คุณได้รู้จักเพื่อนร่วมงานดีมากยิ่งขึ้น แต่สำหรับข้อนี้.. อยากให้ข้อคิดกับคุณว่า นิสัยใจคอของคนเรานั้นมากมายหลากหลาย หากคุณพบว่าเพื่อนร่วมงานคนนั้นของคุณร้องขอความช่วยเหลือบ่อย ๆ ในชนิดที่คุณเริ่มเอะใจแล้วว่าคือการเอาเปรียบ ให้คุณรีบถอยออกมา และปฏิเสธอย่างมีมารยาท 3. Team is…

การ ทำธุรกิจกับเพื่อน หรือแฟน ใครหลายคนต่างก็บอกว่าเป็นความหายนะ เพราะธุรกิจอาจพังยังไม่พอ คุณยังอาจจะเสียความสัมพันธ์กับเขาเหล่านั้นอีกด้วย งานนี้ไม่มีอะไรคุ้มค่าเลย บางรายโชคดีหน่อยอาจจะแยกย้ายกันด้วยดี แต่ก็คงมีตะขิดตะขวงใจกันบ้าง มองหน้ากันอย่างคุ้นชินไม่ได้เหมือนเดิมอีกแล้ว ตัวอย่างด้านไม่ดีมีมากมายให้พบเห็น เพราะฉะนั้นการทำธุรกิจกับเพื่อนหรือแฟน หลายคนจึงคิดว่าไม่เวิร์คแน่ ๆ แต่เหรียญมีสองด้านเสมอ ใช่ว่าจะมีแต่คนที่ล้มเหลว ที่ประสบความสำเร็จมีให้เห็นก็ไม่น้อย อย่างเช่น Airbnb ที่ก่อตั้งโดย สามเพื่อนเกลอ Nathan Blecharczyk, Brian Chesky and Joe Gebbia หรือ Hewlett-Packard ก็เริ่มจากสองเพื่อนซี้ที่จบจากมหาวิทยาลัยเดียวกัน Bill Hewlett และ Dave Packard Fun-Fact : Big Tech. Company ชื่อดังระดับโลก ที่เรารู้จัก ไม่ว่าจะเป็น Google, Microsoft และ Apple ต่างก็ไม่ได้เริ่มต้นจากคน ๆ เดียว โดย Google ริเริ่มจาก Sergey Brin และ Larry Page,Microsoft : Bill Gates และ Paul Allen, และ Apple : Steve Wozniak และ Steve Jobs หากคุณเห็นรายชื่อบริษัทยักษ์ใหญ่เหล่านี้ แล้วเกิดฮึกเหิมชวนเพื่อนซี้หรือคนรักลงขันทันที นั่นก็คงไม่ใช่ความคิดที่ดีเสมอไป หากคิดเพียงว่า เพื่อกันทำด้วยกันเพียงใช้ใจแลกใจ คงจะไมไ่ด้ และหากมีการวางแผนที่ไม่เพียงพอ…

ปัญหาเรื่องสายตาเล็ก ๆ อาจเป็นสัญญาณเตือนสุขภาพตาครั้งยิ่งใหญ่.. คนเรามักจะใช้สายตาเป็นประจำในทุกวัน ขึ้นอยู่กับว่าจะใช้สายตาไปกับอะไร ยิ่งหนุ่มสาววัยทำงานที่ใช้งานอวัยวะนี้เยอะกว่าคนรุ่นอื่น และเสี่ยงกับ ปัญหาสายตา เพราะส่วนใหญ่ต้องนั่งหน้าจอคอมฯ ในทุก ๆ วัน แถมชีวิตประจำวันของพวกเรายุคนี้หนีไม่พ้นการดูหน้าจอโทรศัพท์อยู่เสมอ ๆ เล่นเกมส์ ดูซีรีย์ อ่านเมล ตอบแชท ซึ่งแน่นอนว่าหากคุณใช้สายตาไม่เหมาะสมในแต่ละวัน จะส่งผลต่อสุขภาพตาในระยะยาวได้อย่างแน่นอน และหมั่นสังเกตอาการ เพราะหากปล่อยไว้นาน อาจทำให้ดวงตาลดอายุไขการใช้งานได้ไวมากกว่าเดิม ซึ่งเป็นสิ่งที่เป็นอันตรายมาก ๆ ในบทความนี้จึงอยากเชิญชวนทุกคนให้เริ่มหันมาดูแลสายตาตั้งแต่วันนี้ และจะพาทุกคนไปดูสัญญาณเตือนครั้งแรกให้ลองได้สังเกตตัวเองกันก่อน พร้อมแนะนำ 5 โรคปัญหาสายตาที่พบได้บ่อยมีอะไรบ้าง เริ่มต้น.. สังเกตอาการกันก่อน สัญญาณเตือนที่กำลังบอกว่าคุณจะเริ่มมี ปัญหาสายตา แล้วนะ นั่นก็คือ “ภาวะอาการตาล้า” ที่มีจุดสังเกตมากมายหลายอย่าง และที่น่ากลัวคือ คุณรู้ไหมว่า ?! ทุกคนอาจจะเป็นกันอยู่แล้ว แต่ไม่เคยสังเกตมาก่อน ซึ่งสาเหตุนั้นเกิดจากการใช้ดวงตาโดยไม่ได้หยุดพักจึงทำให้เกิดอาการตาล้า โดยลักษณะอาการมีรายละเอียดดังต่อไปนี้ ซึ่งสาเหตุเหล่านี้เป็นสิ่งที่สามารถเกิดขึ้นได้บ่อย ซึ่งถือว่าเป็นสัญญาณสุขภาพตาที่ไม่ค่อยดีนัก เบื้องต้นคุณอาจจะพิจารณาจากอาการเหล่านี้แล้วลองหาทางแก้ไปก่อนได้ แต่ทั้งนี้อาการตาล้า อาจเป็นสัญญาณของการบ่งบอกว่าเป็นโรคทางตาชนิดอื่นได้อีกด้วย ถ้าหากคุณเป็นแทบทุกข้อ ขอแนะนำปรึกษาแพทย์เฉพาะทางเพื่อประเมินและวินิจฉัยจะเป็นการดีที่สุด เพื่อที่จะหาทางป้องกันไม่ให้เกิดโรค เพราะมีโรคตาหลายชนิดเหมือนกัน ถ้าหากเป็นแล้วจะไม่สามารถรักษาได้ 5 โรคปัญหาสายตาที่พบได้บ่อยมีอะไรบ้าง ทีนี้ก็มาถึง 5 โรคปัญหาเรื่องสายตาที่สามารถพบได้บ่อย โดยโรคที่คัดมานั้นส่วนใหญ่แล้วมักจะเกิดจากพฤติกรรมการใช้สายตาของแต่ละคนเป็นหลัก และอาจเกี่ยวข้องกับอายุที่เพิ่มมากขึ้นก็ได้ด้วยเช่นกัน ถ้าหากคุณไม่มีการดูแลสุขภาพตาที่ดีหรือปล่อยปละละเลยแล้วละก็ สามารถทำให้เกิดโรคเหล่านี้ได้เช่นเดียวกัน 1. สายตาผิดปกติ ปัญหาเรื่องสายตาผิดปกติ คือสิ่งที่คนทุกคนบนโลกต้องเป็น ไม่ว่าจะเป็น สายตาสั้น (มองไกล ๆ ไม่ได้เห็นภาพเบลอ) สายตายาว (มองใกล้ ๆ ไม่ได้เห็นภาพเบลอ) สายตาเอียง (ภาพขาดความคมชัด) หรือสายตายาวในช่วงวัยที่อายุเพิ่มมากขึ้น…