ทุกวันนี้การทำงานของหลาย ๆ บริษัทต่างก็มีความเข้มงวดมากขึ้น กดดันมากขึ้น และจะต้องทำตามเป้าหมายหรือกำไรให้กับบริษัทตามสมควร จนหลายครั้งก็พบว่าพนักงานหลายคนไม่มี สุขภาพจิตดี เท่าไหร่นัก และเมื่อการทำงานเต็มไปด้วยความเคร่งเครียดแน่นอนว่าส่งผลต่อความเป็นอยู่ของพนักงานในหลาย ๆ ด้าน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการงาน การเงิน ความรัก ครอบครัว และที่สำคัญยังส่งผลต่อสุขภาพทั้งทางด้านร่างกายและจิตใจอีกด้วย ในบทความนี้จึงจะมาแนะนำวิธีการสร้างบรรยากาศในการทำงาน เพื่อส่งเสริมให้มีสุขภาพจิตที่ดีให้ทุกคนได้ตามอ่านกัน
ความสำคัญของการมี สุขภาพจิตดี ในที่ทำงาน
ก่อนอื่นต้องมาทำความเข้าใจเกี่ยวกับความสำคัญของการมี สุขภาพจิตดี ในที่ทำงานกันก่อน อย่างที่ทุกคนรู้กันดีว่าการทำงาน 1 วัน คือใช้เวลาอย่างต่ำ 8 ชั่วโมง หรืออาจจะมากกว่านั้นสำหรับบางคน แน่นอนว่าสิ่งเหล่านี้ส่งผลต่อการใช้ชีวิตประจำอย่างมาก เพราะถือว่าเป็น 1 ใน 3 ของเวลา 1 วัน ที่คนทำงานจะต้องเจอสภาพแวดล้อมที่กดดันแบบนั้น จนเป็นเหตุให้พนักงานหลายคนหมดไฟในการทำงาน เกิดการเครียดหรือความวิตกกังวล และอาจนำไปสู่โรคซึมเศร้าได้ ดังนั้นถ้าอยากให้บริษัทหรือธุรกิจของคุณไปได้ดีควรสร้างบรรยากาศการทำงานที่ดีก่อน เพราะถ้าหากทำให้ดีพนักงานจะมีจิตใจที่อยากทำงานด้วยความตั้งใจของตนเอง แน่นอนว่าคุณภาพการทำงานจะดีขึ้นเป็นอย่างมากเลยทีเดียว
4 วิธีปรับการทำงานเพื่อ สุขภาพจิตที่ดี ของคนในบริษัท
1. ออกแบบการทำงานที่ชัดเจนตรงตามหน้าที่
เวลาพนักงานเข้ามาทำงานจะมีตำแหน่งหรือหน้าที่ของตนเอง ดังนั้นทางบริษัทหรือหัวหน้างานก็ควรยึดหลักการนั้น อย่าให้งานแบบจับฉ่ายหว่านไปทั่ว ควรสร้างระบบการกระจายงานที่มีหลักการ และควร จัดตารางาน โดยดำเนินงานภายใต้ระบบนั้นอย่างมีเสถียรภาพ เพราะหากไม่มีการจัดตารางงานที่ดีหรือการแจกจ่ายงานที่ชัดเจน ไม่เพียงแต่ทำให้พนักงานได้รับภาระงานที่หนักมากยิ่งขึ้น ยังจะทำให้พวกเขาสับสนมึนงงในขอบเขตงานที่ได้รับ และท้ายที่สุดทำให้งานที่ตัวเองดูแลอยู่มีคุณภาพที่น้อยลงได้ ดังนั้นการจำกัดขอบเขตการทำงานอย่างมีระบบ การแจกจ่ายงาน ตลอดจนการกำหนดค่า KPI และรวมถึงเวลาพัก เวลาเลิกงานก็ควรตรงเวลา รักษาสิทธ์ของทุกคนให้เท่าเทียม หากมีโอทีต้องมีจ่ายเงินเพิ่มตามความเหมาะสม เพราะถ้าหากตรงนี้ไม่ชัดเจนอาจกลายเป็นการตีกรอบให้พนักงานทำงานอย่างหนักแบบไม่มีระบบได้
2. เพิ่มความรู้สึกภาคภูมิใจและให้ความสำคัญกับพนักงาน
ในการทำงานการสร้างพลังบวกให้กับพนักงานถือว่าเป็นสิ่งที่สำคัญมาก เพราะถ้ามีบรรยากาศที่ดีแน่นอนว่าสภาพจิตใจของพนักงานจะดีขึ้นด้วย โดยวิธีการนั้นคือการให้ความสำคัญกับผลงานของพนักงานที่ประสบความสำเร็จให้พนักงานรู้สึกภาคภูมิใจและรู้สึกว่าตัวเองมีคุณค่า หรือต่อให้แม้มีพนักงานที่ทำงานล้มเหลวการให้คำปลอบใจและให้การสู้ต่อจะเป็นอะไรที่ดีกว่า เพราะถ้าหากโดนตำหนิและกล่าวโทษสักครั้งนึง หลังจากนั้นพนักงานจะไม่กล้าเสนอไอเดีย เพราะการอยู่เฉย ๆ อาจเป็นอะไรที่เซฟโซนที่สุดก็ได้ สุดท้ายก็กลายเป็นว่าบริษัทจะเติบโตต่อไม่ได้
ในหลายๆ ครั้งการให้รางวัลส่วนใหญ่มักจะเป็นการเพิ่มเงินเดือนหรือไม่ก็ให้ค่าคอมมิชชั่นนั่นถือเป็นเรื่องสมควร แต่ในหลายครั้งที่พบบ่อย ๆ หากพนักงานคนไหนที่ไม่ได้รับความสำคัญในที่ทำงานทั้งในแง่ของผลงาน ตัวตน สภาพความเป็นอยู่ หรือแม้แต่สภาพจิตใจก็อาจเป็นสาเหตุที่พนักงานหลายคนเลือกที่จะลาออก เพราะการอยู่ที่นี่ทำให้รู้สึกว่าตัวเองไม่มีคุณค่า และไม่รู้จะทำงานต่อไปเพื่ออะไร แต่ถ้าหากแก้ตรงนี้ได้รับรองพนักงานของคุณจะทำงานด้วยใจแทนที่การทำงานด้วยเงินอย่างแน่นอน
3. การปฏิบัติตัวอย่างเท่าเทียมกันในที่ทำงาน
หากบริษัทหรือองค์กรของคุณมีการปฏิบัติตัวอย่างเท่าเทียมกัน ถึงแม้ตำแหน่งนั้นจะน้อยใหญ่แตกต่างกัน แต่ถ้าคุยกันอย่างมีเหตุมีผล เคารพความคิดและการทำงานของผู้อื่น ให้เกียรติในการตัดสินใจของพนักงาน ให้พนักงานทุกคนทำงานอย่างเต็มที่ พนักงานจะมีสุขภาพจิตดีได้อย่างเห็นได้ชัด แต่ในกรณีกลับกันหากมีการเลือกใช้อำนาจแบ่งพรรคแบ่งฝ่าย มีการกดดัน ตำหนิ หรือด่าทอว่าร้าย ลดทอนคุณค่าในตัวตนของพนักงาน สิ่งเหล่านั้นจะกลายเป็นตะกอนที่สะสมอยู่ในใจ จนสุดท้ายพนักงานคนนั้นจะทำงานไม่ไหวแล้วลาออกไปพร้อม ๆ กับใจที่พังได้
4. หมั่นตรวจเช็คความเป็นอยู่ของพนักงาน
นอกจากเรื่องการทำงานแล้ว สิ่งที่บริษัทหรือหัวหน้าที่ดูแลควรใส่ใจคือความเป็นอยู่ของพนักงาน หรือก็คือการใส่ใจในชีวิตประจำวันของพนักงานในแต่ละวันนั่นเอง เริ่มแรกอาจเริ่มคำถามง่าย ๆ ว่า “วันนี้คุณเป็นยังไงบ้าง” ให้พนักงานได้เล่าหรือระบายสิ่งที่ติดค้างอยู่ในใจ โดยที่ผู้ฟังก็รับฟังแบบไม่ตัดสิน สิ่งเหล่านี้จะทำให้พนักงานวางเรื่องหนัก ๆ ของตัวเองลงได้ และถ้าหากคุณเสนอไอเดียในการแก้ไขก็อาจเสนอได้ด้วยเช่นกัน
แต่ถ้าให้ลึกกว่านั้นหากพนักงานเกิดเหตุฉุกเฉินหรือเรื่องจำเป็น เช่น ไม่มีคนไปรับลูก ขอลาไปรับลูกเอง, พ่อแม่ป่วยขอทำงาน work from home อยู่ที่บ้าน, มีปัญหาด้านสุขภาพก็ต้องใส่ใจและให้การช่วยเหลือ สิ่งเหล่านี้จะฟื้นฟูให้มีสุขภาพจิตดีและทำให้ความสัมพันธ์ในที่ทำงานเป็นไปด้วยดีอีกด้วย
สุขภาพจิตดี บ่อเกิดแห่งความสุขกับตัวเองและคนรอบตัว
เมื่อบรรยากาศการทำงานเป็นไปด้วยดี ทั้งในแง่ของการทำงานที่ดี การมีเพื่อนร่วมงานที่ดี การได้รับความสำคัญกับงานที่ได้รับมอบหมาย หรือการให้คุณค่าตัวตนของพนักงาน จะเป็นบ่อเกิดเล็ก ๆ ที่จะทำให้พนักงานมีสุขภาพจิตดี เมื่อมีบรรยากาศทำงานดีแล้ว จะส่งผลดีต่อทุกมิติในชีวิตของตนเองและคนรอบตัวเป็นอย่างมาก ทุกคนคงจะจินตนาการภาพออกว่าเวลากลับบ้านไปยิ้มแย้มทุกวัน บรรยากาศในครอบครัวจะอบอุ่นใจอย่างแน่นอน
Credit image : Image by our-team on Freepik