Browsing: จัดซื้อ การตลาด การขาย บริการ

เคยสงสัยกันไหมว่า.. ทำไมรถเข็นไอศกรีมถึงใช้เสียงกระดิ่งดังกรุ่งกริ่งทุกครั้งเมื่อต้องตามบ้านใครต่อใครในยามเย็น และเคยรู้สึกประหลาดใจบ้างไหมว่าทำไมเสียงเพลงในร้านอาหารหรือคาเฟ่ถึงมีอำนาจดึงดูดให้ลูกค้านั่งอยู่กับที่แม้จะกินอาหารเสร็จแล้วก็ตาม คนออกกำลังกายในฟิตเนสเสมือนถูกแรงกระตุ้นจากเสียงเพลงเร้าใจให้มีพลัง หรือหากคุณเป็นหนึ่งในหลายแสนล้านคนบนโลกที่พรั้งเผลอด่วนซื้อของโดยไม่สนราคาแสนแพงของสินค้าชิ้นนั้น บางทีคุณอาจตกอยู่ภายใต้อำนาจสะกดของเสียงเพลงเสียแล้ว Music Marketing เป็นกลยุทธ์การตลาดที่หลายธุรกิจหยิบใช้แล้วได้ผลมานาน กระทั่งโซเชียลมีเดียเข้ามาในชีวิตเราแบบเต็มตัว เมื่อนั้นเองที่จังหวะสะกดใจคนฟังเริ่มเปลี่ยนไป.. Music Marketing หากแค่เพียงการใช้เมโลดี้อันไพเราะร่วมคำร้องที่กังวาลก้องร้าน ไม่อาจช่วยให้คุณเข้าใจวิธีใช้มันได้ดียิ่งขึ้น แน่นอนว่าหากคิดจะใช้เสียงเพลง เราก็ต้องฟังเสียงของความเงียบให้เป็น แต่ก่อนจะไปถึงจุดนั้น หลายคนคงพิศวงกับเจ้ากลยุทธ์เสียงเพลงนี้พอสมควร งั้นเรามารู้จักและเจาะลึกถึงเจ้าสิ่งนี้ไปพร้อมกัน…

ยุคนี้นับว่าเป็นยุคแห่งการทำ Content Marketing เพื่อให้เกิดไวรัล ไม่ว่าจะเป็นข่าวสาร บทความ วลีเด็ด คำคม แบนเนอร์ คลิปวีดีโอ ที่มีเป้าหมายเพื่อให้เป็นที่ถูกตาต้องใจของผู้ชม เน้นสร้างความโด่งดัง สร้างชื่อเสียง รวมถึงการสร้างยอดขาย โดยใช้เวลาในการปั้นคอนเทนต์ไม่นาน เพราะจะต้องรวดเร็ว ฉับไว และทันกระแสที่กำลังบูมในขณะนั้นได้ โดยการสร้างสรรค์คอนเทนต์มีหลากหลายวิธีที่จะช่วยทำคอนเทนต์ปัง ๆ โดยคุณสามารถเริ่มได้จากสิ่งนี้..…

เชื่อว่าหากคุณได้ยินคำว่า Personalized marketing แล้วคงรู้สึกงุนงง นึกภาพไม่ออกว่ามันคืออะไร.. ขอให้คุณลองนึกถึงตอนคุณไปซื้อของที่ซุปเปอร์มาร์เก็ตครั้งล่าสุด บรรยากาศร้านค้าที่สะอาดสบายตา คุณภาพสินค้าที่ดี แพคเกจจิ้งน่าหยิบใช้ มีให้เลือกหลายหลาย รวมไปถึงการต้อนรับของพนักงาน รอยยิ้ม น้ำเสียง ท่าทาง และการใช้สรรพนามเรียกเราว่า “คุณลูกค้า” “คุณท่าน” “คุณ…” ที่ฟังแล้วรู้สึกเป็นคนพิเศษ คล้ายแสงเทียนที่จุดสว่างวาบกลางใจให้เรานั้นอบอุ่นหัวใจทุกครั้งที่มาเยือน…

จิตวิญญาณที่สมบูรณ์ ย่อมอยู่ในจิตใจที่สมบูรณ์ และร่างกาย.. ที่สมบูรณ์ ประโยคคุ้นหูนี้อาจฟังดูเป็นเรื่องปกติสำหรับใครหลายคน ที่เมื่อลืมตาตื่นขึ้นมา ก็พบกับต้นไม้ใบหญ้าที่พลิ้วไสวคล้ายมีชีวิต คอยโอบล้อม.. และโอบกอดตัวเราและชุมชนอย่างเงียบสงบ จนกระทั่งวันหนึ่งที่โลกของเราเข้าสู่ยุคปฏิวัติอุตสาหกรรม (Industry Revolution) ประโยคที่ว่านี้ก็ฟังดูผิดแปลกไปจากเดิม ผู้คนต่างต้องปรับตัวให้อยู่รอดในระบบ ซึ่งขับเคลื่อนด้วยแรงงานมนุษย์ เครื่องจักร ทรัพยากร และเงินตรา ฟังดูแล้วมันย้อนแย้งกับการ sustain วิถีชีวิตมากเหลือเกิน..…

โลกธุรกิจยุคดิจิทัลทุกวันนี้.. การแข่งขันสูง ต้องแข่งกับเวลา วิธีบริหารแบบเดิมที่เน้นวางแผนกลยุทธ์ให้แน่นอนก่อนแล้วค่อยลงมือทำ ถือว่าช้าเกินไปและใช้ไม่ได้ผลดีกับยุคนี้แล้ว ซึ่งปัญหานี้ก่อให้เกิดโซลูชันการบริหารแบบใหม่ คือ “การบริหารด้วย Business Model ที่ไม่หยุดนิ่ง” เป็นการบริหารที่เน้นความเร็ว ไวต่อเหตุการณ์ และพร้อมปรับเปลี่ยนอยู่เสมอเพื่อแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นตามแต่ละสถานการณ์.. และเรื่องราวต่อไปนี้เกี่ยวข้องกับการวางแผนกลยุทธ์ธุรกิจด้วย Business Model Canvas เพื่อรองรับกับการบริหารที่เน้นความรวดเร็ว พร้อมปรับเปลี่ยนตลอดเวลาเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีขึ้นเสมอ…

หากคุณเป็นคนทำธุรกิจไม่ว่าจะเล็กหรือใหญ่ เป็น SME หรือ Enterprise.. ในยุคดิจิทัลอย่างทุกวันนี้ คุณทราบไหมว่า ? แม้เทคโนโลยีจะช่วยให้คุณสามารถทำการตลาดได้ง่ายขึ้นกว่าเมื่อก่อนมาก แต่สิ่งที่ห้ามลืมเป็นอันขาดคือ กลยุทธ์ (Strategy) เพราะธุรกิจจำเป็นต้องมีแผนรับมือพฤติกรรมของผู้บริโภคที่พร้อมเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา และแน่นอนว่า Marketing funnel (Mf) คือหนึ่งในกลยุทธ์ที่ขาดไม่ได้ คุณคงได้ยินชื่อนี้อยู่บ้างในยุคดิจิทัล ดิสรัปชั่น…

Main Focus Digital Disruption มีอิทธิพลต่อวิถีชีวิตของผู้คนตลอดช่วงทศวรรษที่ผ่านมากลยุทธ์ 4E เข้ามาแทนที่ 4P เมื่อใช้ร่วมกับ Martech จะยิ่งมีประสิทธิภาพ ตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคความสำคัญของ Marketing 4E ซึ่งประกอบด้วย Experience, Exchange, Everyplace และ Evangelismจะบูรณาการ…

หัวใจหลักของ Marketing 4.0 คือ การบูรณาการเครื่องมือทางการตลาดทั้งออนไลน์และออฟไลน์ที่เกิดจากดิจิตัลเทคโนโลยีต่าง ๆ ผสมผสานเข้ากับ กลยุทธ์การตลาด จนเกิดเป็น Big Data, Marketing Automation, O2O (Online to Offline) ฯลฯ นั่นเอง ซึ่งแม้ว่าแค่ประโยคแรกของบทความจะเป็นคีย์ไฮไลต์ของคำตอบแล้วก็ตาม…

อ่านหัวข้อแล้ว ก่อนอื่นต้องออกตัวก่อนว่า เราไม่ได้จะบอกว่าการหาลูกค้าใหม่เป็นเรื่องที่ไม่จำเป็นหรือกลยุทธ์การลดราคาเป็นสิ่งที่ไม่ควรใช้ แต่อยากให้ลองคิดว่า หากลูกค้าที่ได้มามีแต่ลูกค้าครั้งเดียว (one-time customer) คุณก็คงต้องลดราคาอยู่เรื่อยไป จนกระทั้งนั่นกลายเป็น “ราคาปกติ” ของร้าน ซึ่งไม่ใช่วิธีที่ดีกับการจัดการ ลูกค้าสัมพันธ์ และเชื่อไหมว่า ? ทันทีที่มีร้านอื่นขายถูกกว่า ลูกค้าก็พร้อมที่จะไปจากคุณทันที ! ซึ่งในกรณีนี้ปัญหาไม่ได้อยู่ที่ตัวลูกค้า แต่อยู่ที่ร้านไหนเลือกใช้กลยุทธ์ดึงดูด…