Author: athena_abradmin
หลักสูตรผู้บริหาร สู่การเป็นสุดยอดนักบริหารเชิงกลยุทธ์ Strategic Planing and Scenario Planing
คอร์สอบรมนี้สอนอะไร ? การแข่งขันทางธุรกิจที่ทวีความรุนแรงมากขึ้นในยุคแห่งความรวดเร็วของเทคโนโลยีสารสนเทศ (Information Age) การบริหารเพื่อมุ่งสู่ความสำเร็จดูเป็นเรื่องยากยิ่งขึ้นทุกขณะ โดยผู้บริหารต้องเห็น 3C กล่าวคือ Change – Customer – Competition ดังนั้นเราต้องการมนุษย์พันธุ์ใหม่ในการบริหารองค์กรมนุษย์พันธุ์ใหม่ซึ่งมีกรอบการคิดแบบใหม่ เรียกว่าการเคลื่อนกระบวนทัศน์ (Paradigm Shift) ในกรอบการบริหารและกรอบความคิด ซึ่งจะเปลี่ยนแปลงแนวทางในการบริหารที่ผู้บริหารต้องมีลักษณะคิดเป็นนักวางกลยุทธ์ (Strategic Thinker) มีการบริหารภายใต้การตัดสินใจที่ถูกต้อง (Strategic Decision) การบริหารที่วิเคราะห์สภาพแวดล้อมทั้งภายในภายนอกองค์กรอย่างมีระบบ (Strategic Analysis) การบริหารที่มีการกำหนดทิศทางที่แน่นอนชัดเจน (Strategic Direction) และทั้งหมดอยู่ใน หลักสูตรผู้บริหาร นี้แล้ว ! กล่าวได้ว่า.. กุญแจสู่ความสำเร็จที่สำคัญนั้น “ผู้บริหารควรวางตำแหน่งเชิงกลยุทธ์ (Strategic Positioning) ขององค์กรให้ทันต่อการเปลี่ยงแปลง” ซึ่งจะสะท้อนออกมาโดยมิใช่เป็นแผนธุรกิจแบบเดิม แต่เป็นแผนเชิงกลยุทธ์ (Strategic Planning) ที่มีการบริหารเชิงพลวัต โดยเราเรียกการบริหารแบบนี้ว่า “การบริหารเชิงกลยุทธ์” Strategic Management นั่นเอง Key Contents ก้าวสู่การเป็นนักคิดเชิงกลยุทธ์ (Strategic Thinking) ท่านจะได้เข้าใจถึงหลักแนวคิดในรูปแบบของการคิดเชิงกลยุทธ์ในแบบต่าง ๆ ได้มากยิ่งขึ้น เพราะระบบคิดคือพื้นฐานของการจัดการทั้งหมดของผู้บริหาร ในการนำไปใช้เพื่อวางแผน และตัดสินใจทางธุรกิจ เราจะเป็นนักบริหารเชิงกลยุทธ์ได้ ก็ต้องเป็นนักคิดเชิงกลยุทธ์เสียก่อนกุญแจสู่ความสำเร็จใน การบริหารเชิงกลยุทธ์โดยใช้ทฤษฎีเกมส์ (Game Theory) ท่านจะได้เรียนรู้ปัจจัยใดบ้างที่เป็นกุญแจสู่ความสำเร็จในการบริหารเชิงกลยุทธ์โดยใช้ทฤษฎีเกมส์ ซึ่งเป็นแนวคิดที่ยอมรับจากคนทั้งโลก ด้วยหลักการคิดเชิงกลยุทธ์ที่ต้องคำนึงถึงผลกระทบต่าง ๆ ที่ตามมา ตามสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไปที่ผู้บริหารควรรู้ ไม่ว่าจะเป็นการเข้าใจกลยุทธ์ของคู่แข่ง การตัดสินใจเชิงกลยุทธ์ หรือแม้กระทั่งใช้เพื่อการเจรจาต่อรอง เพื่อวิเคราะห์และประเมินตามสถานการณ์นั้น ๆ การกำหนดตำแหน่งและทิศทางเชิงกลยุทธ์การแข่งขัน (Competitive Strategy) ท่านจะสามารถนำสิ่งที่ได้รับไปปรับใช้ในการกำหนดตำแหน่งและทิศทางเชิงกลยุทธ์ดีที่สุดที่เหมาะสมกับองค์กร ซึ่งผู้บริหารต้องตอบคำถามให้ได้ว่าจะไปถึงเป้าหมายที่ได้กำหนดได้อย่างไร ซึ่งต้องคำนึงถึงกลยุทธ์ใน 3 ระดับนี้ด้วย กลยุทธ์ระดับองค์กร (Corporate Strategy) กลยุทธ์ระดับธุรกิจ (Business Strategy) กลยุทธ์ระดับปฏิบัติการ (Function Strategy) แนวคิดและขั้นตอนการสร้างแผนเชิงกลยุทธ์ (Strategic Planning Process) ในการทำแผนเชิงกลยุทธ์ท่านจะได้เรียนรู้การสร้างแผนเชิงกลยุทธ์อย่างเป็นขั้นเป็นตอนอย่างมีแบบแผนเริ่มตั้งแต่…
คอร์สอบรมนี้สอนอะไร ? หลักสูตรฝึก อบรม Sales ออนไลน์ กลยุทธ์การขายและการตลาดเจาะองค์กร Sales & Marketing Strategy for B2B เรียนออนไลน์ผ่าน Zoom Meeting (พร้อมรับไฟล์เอกสาร) เรียนรู้การเพิ่มยอดขายให้ก้าวกระโดด ด้วยการใช้กลยุทธ์นำ กับวิทยากรมากประสบการณ์ หลักการและเหตุผล การขายสินค้าและบริการสำหรับกลุ่มลูกค้าองค์กร (B2B) ในปัจจุบันนี้มีความยากและสลับซับซ้อนมากขึ้น เนื่องจากปัจจัยหลายประการที่เปลี่ยนแปลงไป เช่น ผู้บริโภคมีการศึกษาสูง ผู้บริโภคสามารถที่จะเข้าถึงแหล่งข้อมูลข่าวสารได้มากขึ้น และที่สำคัญคือผู้บริโภคมีทางเลือกในการซื้อสินค้าและบริการมากขึ้นทั้ง Online & Offline ดังนั้นผู้บริหารจึงไม่สามารถกำหนดกลยุทธ์การขายและการตลาดเหมือนในอดีตที่ผ่านมาได้อีกแล้ว หากแต่ต้องเป็นผู้ที่มีทักษะในการคิด วิเคราะห์เพื่อจะได้กำหนดกลยุทธ์ได้อย่างเหมาะสมสอดคล้องกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น ด้วยเหตุนี้เองทางสถาบันได้พัฒนาหลักสูตร “การสร้างกลยุทธ์การขายและการตลาดสำหรับลูกค้ากลุ่มองค์กรธุรกิจ” (Sales and Marketing strategy for B2B) หลักสูตรนี้เป็นหลักสูตรถูกพัฒนาขึ้นเพื่อต้องการให้ผู้บริหารการตลาด ผู้บริหารทีมขายและผู้ที่สนใจได้เรียนองค์ความรู้ที่สำคัญ เพื่อพัฒนากลยุทธ์ทางการขายสำหรับลูกค้ากลุ่มองค์กรธุรกิจโดยเฉพาะให้ประสบความสำเร็จ โดยเริ่มตั้งแต่งการระบุกลุ่มเป้าหมายได้อย่างถูกต้อง การวิเคราะห์สถานการณ์ทางตลาด การวิเคราะห์ลูกค้าและคู่แข่ง นอกจากนั้นยังได้เรียนรู้กลยุทธ์ในการรักษาและขยายฐานลูกค้า โดยการอบรมนั้นจะมีการบรรยายสลับกับการทำกิจกรรมเป็นช่วง ๆ เพื่อสามารถนำความรู้นี้ไปใช้ในการทำงานได้อย่างแท้จริง เมื่อจบหลักสูตรผู้เข้าสัมมนาสามารถนำองค์ความรู้ต่าง ๆ ไปปฏิบัติได้ทันที Key Contents Key Benefits หมวดหมู่ งานบุคคล HR การทำงาน / การบริหารการจัดการ กลยุทธ์ธุรกิจ / จัดซื้อ การตลาด การขาย บริการ รูปแบบการเรียน อบรมออนไลน์ อื่น ๆ ที่ผู้เรียนต้องรู้ วิทยากร อ.ไพบูลย์ ล้วนวรวัฒน์ ที่ปรึกษาและผู้เชี่ยวชาญด้านการขาย การบริหารทีมขาย การตลาด การเจรจาต่อรองทั้งธุรกิจค้าปลีกและภาคอุตสาหกรรมต่างๆ มามากกว่า 17 ปี ประสบการณ์ทำงาน เวลาเรียน สอบถามโดยตรงกับผู้จัดคอร์สอบรม ข้อมูลอาจมีการเปลี่ยนแปลง กรุณาสอบถามเพื่อคอนเฟริมโดยตรงกับผู้จัดคอร์สอบรมอีกครั้ง Source link :…
คอร์สคอมพิวเตอร์สำหรับเด็ก เรียนตัดต่อ ทำ Sticker LINE สร้างเว็บไซต์ เขียน Python..
คอร์สอบรมนี้สอนอะไร ? CLEVERKIDS ศูนย์อบรม สอนคอมพิวเตอร์เด็ก Promotion เดือน พฤศจิกายน 2566 (Back to School) สมัครเรียน 2 หลักสูตร รับส่วนลด 500 บาท เรามีคอร์สเรียนคอมพิวเตอร์หลากหลายสำหรับเด็ก เสริมสร้างจินตนาการ และการเรียนรู้เทคโนโลยี หมวดหมู่ คอมพิวเตอร์ ไอที เทคโนโลยี รูปแบบการเรียน อื่น ๆ ที่ผู้เรียนต้องรู้ จองห้องเรียน โทร : 02-674-0957, 097-984-4895 เวลาเรียน สอบถามโดยตรงกับผู้จัดคอร์สอบรม ข้อมูลอาจมีการเปลี่ยนแปลง กรุณาสอบถามเพื่อคอนเฟริมโดยตรงกับผู้จัดคอร์สอบรมอีกครั้ง Source link : คลิกดูข้อมูลเต็ม สนใจติดต่อได้ที่
ถ้าหากใครนั่งติดอยู่กับโต๊ะทำงาน นั่งหน้าจอคอมพิวเตอร์ตลอดวัน หรือสาวก “มนุษย์เงินเดือน” แบบเรา ๆ ที่ทำงานวันนึงต่อเนื่อง 8 ชั่วโมงไม่ได้พัก หรือมีการเปลี่ยนอิริยาบถน้อยมากในแต่ละวัน ไม่ต้องแปลกใจ.. คุณก็คือคนนึงที่กำลังเสี่ยงหรืออยู่ในสภาวะของ โรคออฟฟิศซินโดรม เสียแล้ว โรคยอดฮิตของชาวออฟฟิศ โดยลักษณะอาการของคนที่เป็นโรคชนิดนี้เกิดจากการใช้มัดกล้ามเนื้อ และเยื่อพังผืดที่เดิมซ้ำ ๆ จนทำให้เกิดการอักเสบของกล้ามเนื้อส่งผลให้ปวดในระยะยาว และถ้าหากมีการดูแลไม่ดีพอ หรือไม่ได้รับการแก้ปัญหาอย่างถูกวิธี โรคนี้อาจลุกลามเรื้อรังได้ ถึงตอนนั้นอาจเป็นเรื่องใหญ่ให้เปลืองสตางค์ถึงขั้นผ่าตัดเลยก็มั ดังนั้นอย่านิ่งนอนใจ สุขภาพของคุณควรมาเป็นอันดับหนึ่ง ว่าแล้วก็ลองไปสังเกตุอาการกันก่อนเพื่อหาแนวทางรักษาและการป้องกันต่อไป.. เช็กลิสต์ ! โรคออฟฟิศซินโดรม เป็นตรงไหนได้บ้างและต้องดูแลอย่างไร 1. ปวดคอ บ่า ไหล่ สะบัก สำหรับอาการ โรคออฟฟิศซินโดรม ที่สามารถเจอได้บ่อยนั่นก็คือ อาการปวดคอ บ่า ไหล่ สะบัก หรือก็คือส่วนด้านบน ที่อาจจะเกิดได้จากการทำงานในโต๊ะที่ไม่ตรงตามสรีระของร่างกาย หรือก็คือนั่งหลังค่อม คอยื่นเป็นเวลานาน ๆ วิธีรักษา : ทายาแก้ปวด, นวดแผนไทยให้กล้ามเนื้อคลาย, ทำกายภาพบำบัด เช่น เครื่อง Shock Wave วิธีป้องกัน : ปรับท่านั่งให้ถูกหลักโดยด่วน และทุกเช้า – เย็น ให้ทำการยืดเส้น โดยเริ่มได้จากใช้มือข้างซ้ายจับที่ศีรษะดันมาที่ด้านซ้ายแล้วให้บ่าตึงที่ด้านขวา (ทำสลับกัน), ให้ใช้มือข้างที่ถนัดกดศีรษะมาด้านหน้าและเงยขึ้น, ให้จับศีรษะหันหน้า 45 องศา (ทำสลับกัน) อย่างละ 15 ครั้ง 2. ปวดหลัง ในส่วนของอาการปวดหลังก็สามารถพบเจอได้บ่อยเช่นเดียวกัน ส่วนมากจะมีอาการบริเวณช่วงหลัง หรือไล่ไปแนวบริเวณด้านข้างกระดูกสันหลัง โดยอาการปวดหลังอาจเกิดได้จากนั่งไม่เต็มก้น นั่งเลื่อย เก้าที่ทำงานไม่สามารถรับรองหลังได้ วิธีรักษา : ทายาแก้ปวด, นวดแผนไทยให้กล้ามเนื้อคลาย, ทำกายภาพบำบัด, ตรวจเช็กบริเวณกระดูกสันหลังว่ามีอาการคดหรือไม่ (ถ้ามีอาการคดจะทำให้ปวดง่ายขึ้น) วิธีป้องกัน : หมั่นยืดเส้นยืดสายเป็นประจำ โดยสามารถเริ่มจากเอามือทั้งสองไขว่หลังกันจับข้อศอกอีกข้าง ใช้หัวแอ่นไปด้านหน้าเพื่อทำการยืดหลัง หากคุณเป็นหนักจนหลังแข็งไม่สามารถทำท่านี้ได้ ให้เปลี่ยนเป็นนอนราบแผ่นหลังติดกับพื้นเหยียดแขนขาให้สุดแทนก็ได้ผลดีเช่นกัน 3. ปวดศีรษะ ในส่วนของการปวดศีรษะนั้น ส่วนใหญ่มักจะเกิดจากการที่อยู่ในภาวะเครียด หรืออาจส่งผลให้เกิดไมเกรน…
คอร์สอบรมนี้สอนอะไร ? หลักสูตรผู้บริหาร หัวหน้าทีม และฝ่าย HR เหมาะสำหรับองค์กรที่สนใจจะใช้ระบบ ประเมิน 360 องศา / BSC / Competency แบบจริงจัง IN – HOUSE TRAINING ราคา 1 วันเต็มเพียง 25,000.- ต่อหนึ่งหัวข้อ โดยมีหัวข้อให้เลือกต่อไปนี้ หมวดหมู่ งานบุคคล HR การทำงาน / การบริหารการจัดการ กลยุทธ์ธุรกิจ / การประเมินคุณภาพ มาตราฐานต่างๆ รูปแบบการเรียน อบรมทั่วไปโดยบริษัท/หน่วยงาน วิทยากร อ.รุ่งนิกร สุมงคล อาจารย์พิเศษระดับ ป.ตรี -โท; ม.ธรรมศาสตร์ / ม.เกษตรศาสตร์ เวลาเรียน สอบถามโดยตรงกับผู้จัดคอร์สอบรม ข้อมูลอาจมีการเปลี่ยนแปลง กรุณาสอบถามเพื่อคอนเฟริมโดยตรงกับผู้จัดคอร์สอบรมอีกครั้ง Source link : คลิกดูข้อมูลเต็ม สนใจติดต่อได้ที่
บทความนี้เป็นประโยชน์ต่อผู้จัดการโครงการ Project Manager ทั้งหลาย ตลอดจนหัวหน้าทีม และ/รวมถึงระดับผู้ประกอบการโดยเฉพาะธุรกิจขนาดเล็กเป็นอย่างยิ่ง เนื้อหาสาระด้าน Soft Skill ในการจัดสรรคนให้เหมาะสมกับงานนี้ หรือที่เราคุ้นหูกันในวลีเท่ห์ ๆ อย่าง “Put the Right Man on the Right Job” นั่นคือการใส่ใจเรื่องการจัดสรรบุคคล ในการเลือกคนที่จะมาทำงานให้เราได้อย่าง เหมาะสม ทั้งด้านเวลาและความสามารถ ที่สำคัญสกิลของคนก็ต้อง แมชชิ่ง กับงานที่ได้รับมอบหมายอย่างมีประสิทธิภาพ จบงานกันอย่าง แฮปปี้เอนดิ้ง ทั้งผู้มอบหมายงานและผู้รับงาน จะเห็นได้ว่าสิ่งนี้จึงเป็นเรื่องสำคัญอย่างมาก และเป็นสกิลสำคัญที่ผู้มอบหมายงานทุกคนต้องเรียนรู้ เพราะถ้าหากเลือกคนผิด แทนที่จะช่วยกันทำให้ธุรกิจเติบโต อาจเสียงานและกลายเป็นล่มจมได้ โดยเฉพาะธุรกิจขนาดเล็ก เนื่องจากฐานธุรกิจของคุณอาจยังไม่แข็งแรงพอ ดังนั้นสรุปกันอีกครั้งว่าในบทความนี้จะมาว่าด้วยเรื่อง “วิธีเลือกคนทำงาน” อย่างไรถึงจะมีคุณภาพ และช่วยกันพาธุรกิจของคุณเติบโตไปได้อย่างรวดเร็ว 7 วิธีเลือกคนทำงาน “Put the Right Man on the Right Job” เลือกเฟ้นอย่างไรถึงได้คนที่มีคุณภาพ 1.เลือกคนทำงานที่มีความสามารถแบบตัว T (T-shaped skills) เมื่อคุณอยากจะหาคนมาร่วมงาน แนะนำว่าต้องหาคนที่มีความสามารถแบบตัว T ตามธุรกิจที่คุณทำอยู่ ซึ่งความหมายของตัว T ที่ว่านี้ก็คือจำเป็นจะต้องรู้กว้างในสายงานของคุณหรือก็คือเป็น “เป็ด” แต่จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องรู้ลึกด้วยหรือก็คือมีความสามารถด้านใดด้านหนึ่งเป็นพิเศษที่เรียกว่า “Specialist” ในตำแหน่งที่คุณได้เปิดรับสมัครมานั่นเอง เพราะถ้าหากไม่เป็นตัว T การพัฒนาธุรกิจจะล่าช้ากว่าการเลือกอย่างใดอย่างหนึ่งแน่นอน 2. ทดสอบการทำงานจริงตอนเรียกสัมภาษณ์ วิธีเลือกคนทำงาน ที่ง่ายที่สุดและเห็นผลได้จริงที่สุด นั่นก็คือทดสอบการทำงานจริงในตอนที่เรียกสัมภาษณ์เลย โดยคุณสามารถให้โจทย์ทำเป็นข้อสอบข้อเขียนก็ได้ ในขณะเดียวกันถ้าเป็นงานภาคปฏิบัติก็สามารถลุยให้ทำจริงได้ในทันที ในจุดนี้จะเป็นตัวชี้ขาดว่า ผู้ที่สมัครงานเข้ามามีความสามารถที่เพียงพอหรือไม่ แนะนำว่าให้ตั้งโจทย์ที่มีความแปลกใหม่ ไม่เหมือนที่เคยมีมา เพราะบางครั้งผู้สมัครอาจเก็งข้อสอบตามแบบตัวอย่างที่ธุรกิจมี หรือไม่ก็ให้คนอื่นช่วยเก็งเพื่อที่จะผ่านได้ 3. สัมภาษณ์เรื่องงานว่ารู้รายละเอียดแค่ไหน ในจุดนี้นับว่าเป็นการรีเช็กของผู้ที่สมัครเข้ามาว่า มีความรู้เกี่ยวกับงานแค่ไหน โดยสามารถกำหนดได้จาก Job description แล้วให้ทำการถามผู้สมัครเกี่ยวกับ Job description ว่าแต่ละข้อนั้นมีหน้าที่การทำงานต้น-จบ แต่อย่างใด ถ้าหากคนที่เคยทำงานจริงก็สามารถตอบได้ ถึงแม้ระบบการทำงานของคุณอาจไม่เหมือนระบบงานของผู้สมัครงานที่ผ่านมาก็ได้ แต่ถ้าหากใครยังงง ๆ…
คอร์สอบรมนี้สอนอะไร ? ชมรมบริหารงานบุคคลไทยเอชอาร์ออนไลน์ จัดงานประชุมสัมมนาประจำเดือน ตุลาคม 2566 ในหัวข้อ “การประเมินผลการปฏิบัติงานประจำปี” เพื่อแชร์ความรู้ด้าน การประเมินผลงาน ให้กับบุคคลที่สนใจ โดยเฉพาะบุคคลที่ทำงานด้านเอชอาร์ เพราะการประเมินผลงานของพนักงานในบริษัทนั้น ถือเป็นตัวชี้วัดประสิทธิภาพที่สำคัญ ตลอดจนกระตุ้นให้เกิดการพัฒนาตนเองและงานในแต่ละบุคคลได้ เป็นส่วนหนึ่งของการพัฒนาทางอาชีพ (Career Development) ที่สำคัญขององค์กรด้วย หมวดหมู่ งานบุคคล HR การทำงาน / การบริหารการจัดการ กลยุทธ์ธุรกิจ / การประเมินคุณภาพ มาตราฐานต่างๆ รูปแบบการเรียน อบรมออนไลน์ ผ่าน MS teams วิทยากร ฌานิสา แซ่โง้ว (โค้ชหยก) ผู้จัดการฝ่าย ผู้เชี่ยวชาญด้านการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์และองค์กร เวลาเรียน สอบถามโดยตรงกับผู้จัดคอร์สอบรม ข้อมูลอาจมีการเปลี่ยนแปลง กรุณาสอบถามเพื่อคอนเฟริมโดยตรงกับผู้จัดคอร์สอบรมอีกครั้ง Source link : คลิกดูข้อมูลเต็ม สนใจติดต่อได้ที่
สายตาเปรียบดั่งแสงส่องทาง.. “อาการตาล้า” ปัญหาสายตา เล็ก ๆ ที่ทุกคนไม่ควรมองข้าม
ปัญหาเรื่องสายตาเล็ก ๆ อาจเป็นสัญญาณเตือนสุขภาพตาครั้งยิ่งใหญ่.. คนเรามักจะใช้สายตาเป็นประจำในทุกวัน ขึ้นอยู่กับว่าจะใช้สายตาไปกับอะไร ยิ่งหนุ่มสาววัยทำงานที่ใช้งานอวัยวะนี้เยอะกว่าคนรุ่นอื่น และเสี่ยงกับ ปัญหาสายตา เพราะส่วนใหญ่ต้องนั่งหน้าจอคอมฯ ในทุก ๆ วัน แถมชีวิตประจำวันของพวกเรายุคนี้หนีไม่พ้นการดูหน้าจอโทรศัพท์อยู่เสมอ ๆ เล่นเกมส์ ดูซีรีย์ อ่านเมล ตอบแชท ซึ่งแน่นอนว่าหากคุณใช้สายตาไม่เหมาะสมในแต่ละวัน จะส่งผลต่อสุขภาพตาในระยะยาวได้อย่างแน่นอน และหมั่นสังเกตอาการ เพราะหากปล่อยไว้นาน อาจทำให้ดวงตาลดอายุไขการใช้งานได้ไวมากกว่าเดิม ซึ่งเป็นสิ่งที่เป็นอันตรายมาก ๆ ในบทความนี้จึงอยากเชิญชวนทุกคนให้เริ่มหันมาดูแลสายตาตั้งแต่วันนี้ และจะพาทุกคนไปดูสัญญาณเตือนครั้งแรกให้ลองได้สังเกตตัวเองกันก่อน พร้อมแนะนำ 5 โรคปัญหาสายตาที่พบได้บ่อยมีอะไรบ้าง เริ่มต้น.. สังเกตอาการกันก่อน สัญญาณเตือนที่กำลังบอกว่าคุณจะเริ่มมี ปัญหาสายตา แล้วนะ นั่นก็คือ “ภาวะอาการตาล้า” ที่มีจุดสังเกตมากมายหลายอย่าง และที่น่ากลัวคือ คุณรู้ไหมว่า ?! ทุกคนอาจจะเป็นกันอยู่แล้ว แต่ไม่เคยสังเกตมาก่อน ซึ่งสาเหตุนั้นเกิดจากการใช้ดวงตาโดยไม่ได้หยุดพักจึงทำให้เกิดอาการตาล้า โดยลักษณะอาการมีรายละเอียดดังต่อไปนี้ ซึ่งสาเหตุเหล่านี้เป็นสิ่งที่สามารถเกิดขึ้นได้บ่อย ซึ่งถือว่าเป็นสัญญาณสุขภาพตาที่ไม่ค่อยดีนัก เบื้องต้นคุณอาจจะพิจารณาจากอาการเหล่านี้แล้วลองหาทางแก้ไปก่อนได้ แต่ทั้งนี้อาการตาล้า อาจเป็นสัญญาณของการบ่งบอกว่าเป็นโรคทางตาชนิดอื่นได้อีกด้วย ถ้าหากคุณเป็นแทบทุกข้อ ขอแนะนำปรึกษาแพทย์เฉพาะทางเพื่อประเมินและวินิจฉัยจะเป็นการดีที่สุด เพื่อที่จะหาทางป้องกันไม่ให้เกิดโรค เพราะมีโรคตาหลายชนิดเหมือนกัน ถ้าหากเป็นแล้วจะไม่สามารถรักษาได้ 5 โรคปัญหาสายตาที่พบได้บ่อยมีอะไรบ้าง ทีนี้ก็มาถึง 5 โรคปัญหาเรื่องสายตาที่สามารถพบได้บ่อย โดยโรคที่คัดมานั้นส่วนใหญ่แล้วมักจะเกิดจากพฤติกรรมการใช้สายตาของแต่ละคนเป็นหลัก และอาจเกี่ยวข้องกับอายุที่เพิ่มมากขึ้นก็ได้ด้วยเช่นกัน ถ้าหากคุณไม่มีการดูแลสุขภาพตาที่ดีหรือปล่อยปละละเลยแล้วละก็ สามารถทำให้เกิดโรคเหล่านี้ได้เช่นเดียวกัน 1. สายตาผิดปกติ ปัญหาเรื่องสายตาผิดปกติ คือสิ่งที่คนทุกคนบนโลกต้องเป็น ไม่ว่าจะเป็น สายตาสั้น (มองไกล ๆ ไม่ได้เห็นภาพเบลอ) สายตายาว (มองใกล้ ๆ ไม่ได้เห็นภาพเบลอ) สายตาเอียง (ภาพขาดความคมชัด) หรือสายตายาวในช่วงวัยที่อายุเพิ่มมากขึ้น ส่วนหนึ่งเกิดจากการใช้สายตาที่ไม่เหมาะสม เช่น การอ่านหนังสือ การเล่นคอมพิวเตอร์ สมาร์ทโฟน รวมทั้งการอ่านหนังสือทั้งๆ ที่แสงไฟไม่เพียงพอ และอาจรวมถึงพันธุกรรมได้อีกด้วย 2. โรคคอมพิวเตอร์วิชั่นซินโดรม โรคคอมพิวเตอร์วิชั่นซินโดรม (หนึ่งในโรคออฟฟิศซินโดรม) คือ การที่เราใช้สายตาจ้องกับหน้าจอคอมพิวเตอร์นาน ๆ แบบไม่หยุดพัก ความรุนแรงสามารถเพิ่มขึ้นได้ตั้งแต่ 2 ชั่วโมงขึ้นไป โดยอาการที่มักจะเป็น…
คอร์สอบรมนี้สอนอะไร ? หลักสูตรฝึกอบรมออนไลน์ The Power of Communication for Leadership พลังแห่ง “การสื่อสาร” เพื่อพัฒนาการสื่อสารแบบสร้างสรรค์สำหรับผู้นำ หลักสูตรสำคัญสำหรับหัวหน้างานและผู้บริหารทุกคนต้องไม่พลาด เรียนออนไลน์ผ่าน Zoom Meeting (พร้อมรับไฟล์เอกสาร) เพื่อสร้างทีมสู่ความสำเร็จ ! หลักการและเหตุผล การสื่อสาร คือหัวใจสำคัญของผู้นำในการพัฒนาทีมงาน และจำเป็นมากสำหรับการเป็นหัวหน้างาน เพราะผู้นำที่มีคุณภาพย่อมสามารถสร้างผลงานที่มีคุณภาพผ่านทีมงาน ดังนั้น การสื่อสารให้ทีมงานเข้าใจและเต็มใจปฏิบัติงานตามที่ผู้นำสื่อสาร ย่อมทำให้เกิดความสำเร็จร่วมกัน หลักสูตรนี้สร้างขึ้นมาเพื่อให้เราสามารถบริหารจัดการคนและงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งหัวหน้างาน ผู้จัดการ จำเป็นต้องมีการวางแผนอย่างมีเป้าหมายในการสื่อสารส่งต่อไปยังทีมงาน เพื่อโน้มน้าวและสร้างพลังของทีมงานให้มีประสิทธิผล วิธีการสื่อสารที่ดีเป็นพื้นฐานของการพัฒนาคน และบริหารงาน ซึ่งหัวหน้างานแต่ละคนจะมีวิธีการสื่อสารและบริหารที่แตกต่างกันไป การที่จะดูแลทีมงานให้ได้ทั้งใจ ได้ทั้งงาน ขึ้นอยู่กับวิธีการของแต่ละคนตามแต่สถานการณ์ที่เกิดขึ้น ณ เวลานั้น ๆ Key Contents Key Benefits หมวดหมู่ การพัฒนาตนเองและบุคลิกภาพ รูปแบบการเรียน เรียนออนไลน์ผ่าน Zoom Meeting (พร้อมรับไฟล์เอกสาร) วิทยากร ผศ. ดร.กุสุมา เทพรักษ์ เวลาเรียน สอบถามโดยตรงกับผู้จัดคอร์สอบรม ข้อมูลอาจมีการเปลี่ยนแปลง กรุณาสอบถามเพื่อคอนเฟริมโดยตรงกับผู้จัดคอร์สอบรมอีกครั้ง Source link : คลิกดูข้อมูลเต็ม สนใจติดต่อได้ที่
ในปัจจุบันผู้คนมักมุ่งหน้าตั้งใจเรียน มุ่งมั่นตั้งใจทำงานเพื่ออนาคตที่ดี แน่นอนว่าสิ่งเหล่านี้ต้องแลกอะไรบางอย่างกลับมา ไม่ว่าสุขภาพทางด้านร่างกายที่อาจเป็นออฟฟิศซินโครม มีปัญหาเรื่องสายตา ในขณะเดียวกันสุขภาพใจอาจมีปัญหาในเรื่องของความเครียด อาการ Burnout Burndown รวมไปถึงความวิตกกังวลจนนำไปสู่การเป็นโรคซึมเศร้าได้ ดังนั้นการโฟกัสหรือมีแพสชั่นกับการหา งานอดิเรก ที่เราสนใจ ก็เป็นอีกวิธีที่ดีและใครหลายคนกำลังทำกัน เพื่อแก้ปัญหาสุขภาพกายและใจ นี่จึงเป็นเรื่องที่สำคัญเป็นอย่างมาก และถ้าหากเป็น งานอดิเรก เป็นสิ่งที่เราชอบอยู่แล้วด้วยนั้น ก็ยิ่งเพิ่มความรู้สึกอิ่มเอมใจได้อย่างแน่นอน เพิ่มพลังบวกเหลือ ๆ ให้กับร่างกายได้เป็นอย่างดี และในลิสต์ไอเดียแนะนำงานอดิเรกที่หาทำได้ง่ายในยุคนี้ มีอะไรบ้าง ตรงกับใจคุณบ้างไหมเอ่ย.. ? แนะนำ 6 งานอดิเรก หาทำได้ง่าย ส่งเสริมสุขภาพใจที่ดี เพิ่มคุณค่าให้กับตัวเอง การทำ งานอดิเรก จะทำจากสิ่งที่ตัวเองชอบอยู่แล้วก็ได้ หรือถ้าหากใครอยากหาอะไรใหม่ๆ ก็ได้เช่นเดียวกัน แต่การทำงานอดิเรกขอแนะนำว่ามีการกำหนดช่วงเวลาใน 1 สัปดาห์อย่างชัดเจนจะดีกว่า ไม่เช่นนั้นถ้ารอแต่วันว่าง สุดท้ายวันว่างอาจไม่มีอยู่จริงก็ได้ โดยไอเดียที่อยากแนะนำให้ทุกคนได้ทำมีดังต่อไปนี้ 1. วาดรูปและระบายสีเรียนรู้ความรู้สึก การวาดรูปและระบายสีจะทำให้คุณโฟกัสลงไปในกระดาษ อยากจะวาดรูปแบบไหนก็วาด อยากเลือกระบายสีอะไรก็ระบาย เพียงแค่ปล่อยใจไปกับงานศิลปะเหล่านั้น เมื่อวาดผลงานเสร็จคุณจะโล่งใจขึ้นเพราะโฟกัสอยู่กับงาน ในขณะเดียวกันความรู้สึกอัดอั้นก็ออกผ่านภาพวาด ซึ่งงานอดิเรกนี้เป็นที่นิยมเป็นอย่างมาก และมีหลายสตูดิโอเลยทีเดียวที่รับทำคิลปะบำบัดเพื่อเรียนรู้จิตใจของเราได้ดีมากยิ่งขึ้น 2. เขียน Diary แบบ Free writing สำหรับใครที่ชอบการเขียน โดยเฉพาะชาว introvert ขอแนะนำว่าลองหาสมุดเล่มหนึ่งมาทำเป็น Diary แต่ทีนี้ในการเขียนไม่จำเป็นต้องระบุว่าจะเขียนเรื่องอะไร จะใช้ภาษาแบบไหน จะลำดับเรื่องอย่างไร ขอแนะนำให้เขียนแบบ Free writing ที่ปล่อยมือให้เขียนตามความคิดที่แล่นอยู่ขณะนั้น เขียนไปเรื่อยๆ ไม่หยุด ที่ต่อให้แม้ในหัวจะคิดว่า “คิดไม่ออกๆ” ก็ให้เขียนแบบนั้นไปเรื่อยๆ ซึ่งสิ่งนี้จะถือว่าเป็นการระบายความคิดในหัวและความรู้สึกที่ขุ่นข้องในใจ และหากมาอ่านทวนคุณจะรู้เลยว่ากำลังเครียดหรือคิดวนกับเรื่องอะไรอยู่ 3. นั่งสมาธิ ฝึกความนิ่ง มีสติกับลมหายใจ การนั่งสมาธินับว่าเป็นงานอดิเรกที่ยิ่งทำบ่อยเท่าไรก็ยิ่งดีต่อสุขภาพกายและใจมากเท่านั้น เพราะการนั่งสมาธิจะเป็นการหายใจเข้า – ออกโดยกำหนดลมหายใจให้เป็นปกติ และหากมีความคิดฟุ้งซ่านก็ให้กลับมาโฟกัสกับลมหายใจ สิ่งนี้ส่งผลดีต่อสมองที่ช่วยทำให้ปลอดโปร่งและเพิ่มการทำงานอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น สามารถลดความเครียด ความวิตกกังวล และควบคุมอารมณ์ให้ดียิ่งขึ้น สามารถตามหาความสงบให้จิตใจได้แม้รอบข้างจะวุ่นวายแค่ไหนก็ตาม 4. ทำสวนเพิ่มพื้นที่สีเขียวเยียวยาจิตใจ สำหรับใครมีเวลาว่างทุกช่วงวันหยุดแนะนำว่าให้ออกมาทำสวนในบ้านของคุณนับว่าเป็นงานอดิเรกที่น่าสนใจไม่น้อย สิ่งแรกที่คุณจะได้ใช้แรงในการทำสวนอย่างเต็มที่ สิ่งนี้จะเหมาะกับคนที่นั่งหน้าคอมเป็นประจำ การได้ออกแรงทำสวนจะเพิ่มให้ร่างกายรีแลกซ์ได้ง่ายยิ่งขึ้น เพิ่มกำลังแขนขาได้ดีขึ้น…