*Trendy Now

ชั่วโมงนี้ไม่มีใครกล้าปฏิเสธความร้อนแรงของ House of the Dragon ซีรีส์ยอดนิยมส่งท้ายปี ดีไม่แพ้ซีรีส์ในสตอรี่ไลน์เดียวกันอย่าง Game of Thrones และเชื่อไหมว่า.. เพียงแค่ซีซันที่หนึ่งก็สามารถโกยสกอร์จากบ้าน imdb ไปถึง 8.6/10 และจาก Rotten Tomatoes 86% หากคุณเป็นคนนึงที่ได้ดูซีรีส์เรื่องนี้แล้ว จะเห็นว่าตัวละครใน House of the Dragon มีความโดดเด่นและบุคลิกลักษณะที่แตกต่างกันอย่างน่าสนใจ ความรู้สึกนึกคิดและการกระทำของตัวละครนึงมักพาคุณไปเจอประเด็นต่าง ๆ ที่น่าตื่นเต้น ซับซ้อนแต่ก็สอดประสานกันได้อย่างสนุก…

*รักโลก รักสุขภาพ

ดาเมจรุนแรงมากสำหรับกระแส Sustainability รณรงค์ให้คนหันมาดูแลสิ่งแวดล้อมกันมากขึ้น กระแสพุ่งตรงแรงที่ตั้งแต่ระดับตัวบุคคล ครอบครัว คนรักสุขภาพมากขึ้นและก็รักษ์โลกไปด้วย ไปจนถึงระดับอุตสาหกรรมขนาดเล็ก-ใหญ่ บริษัทแบรนด์ใหญ่ ๆ รีแบรนด์ตัวเองให้เป็นสาวก Eco Friendly ออกแคมเปญโปรโมท Sustainability มากมาย…

ถอดบทเรียน “ธุรกิจเจ๊ง” เช็คความเสี่ยงว่าธุรกิจคุณเข้าขั้นวิกฤตแล้วหรือยัง ? ปกติแล้วบทความส่วนใหญ่จะให้หนทางทำอย่างไรก็ได้ให้ธุรกิจประสบความสำเร็จ พร้อมแนะนำเคล็ดลับต่าง ๆ มากมาย แต่ถ้าหากคุณกำลังเริ่มต้นทำธุรกิจหรือทำธุรกิจแล้วกำลังประสบกับความเสี่ยงในการทำให้ ธุรกิจเจ๊ง…

วิธีคิดหาไอเดียสร้างคอนเทนต์ใหม่ ๆ บนแพลตฟอร์มโซเชีลมีเดียที่ unique เป็นเอกลักษณ์ ไม่ซ้ำใคร ถือเป็นสกิลที่สำคัญมากของนักการตลาดสมัยใหม่ในการทำ Content Marketing เพราะหากมีคอนเทนต์ที่ดี…

สิ่งที่เรียกว่า ‘ธุรกิจ’ ในสายตาของคุณนั้นคืออะไร ?.. หากย้อนกลับไปสิบถึงยี่สิบปีก่อน การมีแบรนด์คงไม่ใช่สิ่งสลักสำคัญอะไรมากมายสำหรับธุรกิจขนาดเล็กถึงกลาง พ่อค้าแม่ขายตลาดนัด คุณป้าร้านขายของชำ ไปจนถึงอาเฮียร้านห้องแถวขายอุปกรณ์ก่อสร้าง พวกเขาก็ยังสามารถทำกำไรเป็นกอบเป็นกำ…

แม้ว่าสงครามและโรคระบาดจะเริ่มซาลงกว่าแต่ก่อน ทว่ากระแสเทรนด์ดิจิทัลก็ยังคงมาแรงไม่หยุดยั้ง เพียงไม่ทันไรโลกของเราก็เริ่มพลัดเปลี่ยนจาก Digital Marketing (DM) สู่ Metaverse Marketing (MM)…

หัวใจหลักของ Marketing 4.0 คือ การบูรณาการเครื่องมือทางการตลาดทั้งออนไลน์และออฟไลน์ที่เกิดจากดิจิตัลเทคโนโลยีต่าง ๆ ผสมผสานเข้ากับ กลยุทธ์การตลาด จนเกิดเป็น Big…

Business knowledge 77%
Technology 71%
Self development 90%
Potential improvement 86%

Athena new release

ถอดบทเรียน “ธุรกิจเจ๊ง” เช็คความเสี่ยงว่าธุรกิจคุณเข้าขั้นวิกฤตแล้วหรือยัง ? ปกติแล้วบทความส่วนใหญ่จะให้หนทางทำอย่างไรก็ได้ให้ธุรกิจประสบความสำเร็จ พร้อมแนะนำเคล็ดลับต่าง ๆ มากมาย แต่ถ้าหากคุณกำลังเริ่มต้นทำธุรกิจหรือทำธุรกิจแล้วกำลังประสบกับความเสี่ยงในการทำให้ ธุรกิจเจ๊ง…

คอร์สอบรมนี้สอนอะไร ? Convincing จิตวิทยาและวาทศิลป์ในการโน้มน้าวใจ “เคล็ดลับ! การโน้มน้าวใจคนให้สำเร็จ ด้วยเทคนิคเชิงจิตวิทยาและศิลปะการพูด”หลักการและเหตุผลการดำเนินธุรกิจในปัจจุบันหลากหลายองค์กรต่างเห็นความสำคัญถึงการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์”บุคลากร”ทางด้านทัศนคติกระบวนการความคิดให้เกิดความสุขในการทำงาน องค์กรจึงต้องนำศาสตร์และศิลป์ทางจิตวิทยามาประยุกต์ใช้ในการวางแผน บริหารจัดการ การจูงใจ การเจรจาต่อรอง…

คอร์สอบรมนี้สอนอะไร ? หลักสูตร Generative AI for Productivity เรียนออนไลน์ผ่าน Zoom Meeting…

เปิดรับสมัครแล้ว คอร์สเรียนออนไลน์ “ก้าวแรกสู่ การพูดในที่สาธารณะ” คอร์สเรียนทักษะการพูดในที่สาธารณะที่โฟกัสตรงจุด ทำให้คุณพัฒนาทักษะการพูดเป็นเร็วขึ้น SPEAK SPARK ได้กลั่นกรอง “ศาสตร์และศิลป์”…

คอร์สอบรมนี้สอนอะไร ? การกำหนดเป้าหมายและตัวชี้วัดผลงานขององค์กรเพื่อให้ได้งานเชิงพัฒนามากขึ้น หลายองค์กรได้เลือกทำการปรับปรุงแนวทางการกำหนดตัวชี้วัดผลงานเช่น KPIs โดยเปลี่ยนไปเป็นการตั้งเป้าหมายในเชิงพัฒนา รวมทั้งการกำหนดตัวชี้วัดผลงานแบบที่มุ่งเหตุที่ทำให้เกิดผล และผลลัพธ์ปลายทางที่ต้องการ มากกว่าที่จะตั้งตัวชี้วัดผลงานแบบงานประจำ และตัวชี้วัดผลงานที่มุ่งวัดผลเบื้องต้นเท่านั้น…

คอร์สอบรมนี้สอนอะไร ? ทําความรู้จักกับไคเซ็น (KAIZEN) เครื่องมือที่ช่วยในการทําไคเซ็นในสํานักงาน หมวดหมู่ งานบุคคล HR การทำงาน…

ดาเมจรุนแรงมากสำหรับกระแส Sustainability รณรงค์ให้คนหันมาดูแลสิ่งแวดล้อมกันมากขึ้น กระแสพุ่งตรงแรงที่ตั้งแต่ระดับตัวบุคคล ครอบครัว คนรักสุขภาพมากขึ้นและก็รักษ์โลกไปด้วย ไปจนถึงระดับอุตสาหกรรมขนาดเล็ก-ใหญ่ บริษัทแบรนด์ใหญ่ ๆ รีแบรนด์ตัวเองให้เป็นสาวก Eco Friendly ออกแคมเปญโปรโมท Sustainability มากมาย ตลอดจนการลงทุนาสร้างโปรเจคอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมที่ไม่แสวงหาผลกำไร และแน่นอนว่ามันคีพคูลเข้ากับเทรนด์ Eco Friendly ในเจเนอเรชั่นนี้มาก…

ทุกคนมีเวลาใน 1 วันเท่ากับ 24 ชั่วโมง แต่ว่าชีวิตและหน้าที่ของเรานั้นมีความแตกต่างกันอย่างเห็นได้ชัด ดังนั้นหากคุณเป็นคนที่ไม่สามารถจัดแจงเวลาของตัวเองได้ ก็อยากจะขอแนะนำวิธี Work Life Balance ที่จะมาช่วยจัดการชีวิตที่เต็มไปด้วยความยุ่งเหยิง ให้กลับมาเป็นระเบียบ และสามารถมีเวลาว่างเพียงพอให้คุณได้ไปทำกิจกรรมที่ตัวเองชื่นชอบ งานอดิเรกอื่น ๆ หรือจะอยู่กับครอบครัวและคนรอบข้างก็ได้เช่นเดียวกัน ถ้าพร้อมแล้วไปดูกันดีกว่าว่ามีวิธีไหนบ้าง.. เลือกใช้ให้เหมาะปรับใช้ให้เเมชกับคุณ ! รวมวิธีเด็ด Work Life Balance ปรับให้เข้ากับสไตล์คุณ ก่อนอื่นต้องบอกว่าการ Work Life Balance ของแต่ละคนจะไม่มีทางเหมือนกัน แต่จะมีวิธีการหรือสูตรสำเร็จที่คล้ายกัน ซึ่งสามารถนำไปประยุกต์ใช้ในแบบที่เหมาะสมกับวิถีชีวิตของคุณได้ ซึ่งสูตรที่จะแนะนำต่อไปนี้นับว่าเป็นวิธีที่นิยมที่คนส่วนใหญ่เลือกใช้ และแต่ละสูตรก็มีประสิทธิภาพมาก แต่สิ่งสำคัญที่สุดคือจำเป็นต้องเริ่มที่การ ปรับ mindset หรือกรอบความคิดของตัวเองให้ได้ก่อน จำไว้ว่า.. มิติของชีวิตคนเราไม่ได้มีแค่เรื่องงาน แต่ยังมีเรื่องอื่น ๆ อีกมากที่ต้องให้ความสำคัญ เพราะถ้าหากปรับ mindset ไม่ได้ ต่อให้สูตรใด ๆ วิเศษแค่ไหนก็ไม่มีทางที่จะสำเร็จอย่างแน่นอน 1. สูตรแบ่งเวลา 8 + 8 + 8 = 24 ชั่วโมง สูตรแรกนับว่าเป็นนาฬิกาชีวิตที่ทุกคนพอจะรู้จักกันอยู่แล้ว นั่นก็คือ นอนหลับเป็นเวลา 8 ชั่วโมง , ทำงาน 8 ชั่วโมง และทำกิจกรรมอื่น ๆ อีก 8 ชั่วโมง วิธีนี้ถือเป็นวิธีการที่ง่ายที่สุดแล้วของการทำ Work Life Balance แต่จะต้องกำหนดเวลาในแต่ละส่วนให้ชัดเจนอย่างดี ไม่มีการผ่อนผันหรือผ่อนปรนใด ๆ…

Multitasking และ Prioritizing skills จำเป็นมากจริง ๆ กับการทำงานในยุคสมัยนี้เพื่อให้ก่อเกิด Productivity ไม่ว่าจะสายอาชีพใด ยิ่งเมื่อคุณโตขึ้น ความรับผิดชอบมากขึ้น คุณต้องรับผิดชอบทั้งงานหลัก (Main goal) ควบคู่ไปกับงานรอง (Sub goal) ในบางสายอาชีพยังอาจถูกงานประเภท Operation Supports แทรกเข้ามาอย่างเร่งด่วนเป็นประจำ หรือหากคุณเป็น Specialist จ๋า แน่นอนว่าคุณต้องมีหน้าที่ให้คำปรึกษา คอยรับโทรศัพท์ ตอบ LINE หรืออีเมลจากผู้ที่ต้องการความช่วยเหลือจากคุณอยู่เสมออย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ กิจกรรมหรือ tasks ทั้งหมดที่เกิดขึ้นในแต่ละวัน ถ้าหากว่าคุณไม่มีพาร์ทเนอร์ประจำตัวคอยช่วยสะกิดเตือน นั่นหมายถึงคุณก็คงต้องจำอะไรเองทั้งหมดคนเดียว หรือไม่มีแพลนเนอร์มาช่วยจัดการและช่วยลำดับงาน คุณก็คงต้องใช้วิธีการจดโน๊ตแบบง่าย ๆ ในสมุดหรือ post-it ซึ่งถ้ามีงานสองงานก็พอไหว แต่หากมีเป็นสิบ ๆ tasks ต่อวัน แค่คิดตามก็ปวดหัวแล้ว ! ปัญหานี้สำหรับในทุกวันนี้แล้ว มันก็ไม่ได้แก้ไขยากเท่าไหร่ เพียงคุณลองมองหาเทคโนโลยี และใช้แอปพลิเคชั่นจำพวกแอพจัดตารางงาน เลือกแอพที่ตรงกับรูปแบบอาชีพและสไตล์การทำงานของตัวคุณเอง รับรองเลยว่าเจ้าแอพเหล่านี้มันช่วยเป็นทั้งแพลนเนอร์และพาร์ทเนอร์ให้คุณได้อย่างดี การันตี Productivity ของคุณจะต้องเพิ่มมากขึ้นได้อย่างมีนัยสำคัญ 7 แอพจัดตารางงาน เป็นทั้งพาร์ทเนอร์และแพลนเนอร์ เลือกใช้ตามสไตล์ การจะเลือกแอพจัดตารางงาน เพื่อเป็นพาร์ทเนอร์ช่วยเตือนความจำ หรือเป็นแพลนเนอร์ช่วยจัดการและช่วยลำดับงานให้ตัวคุณเองนั้นเป็นเรื่องสำคัญ โดยคุณควรจะต้องเลือกให้ตรงกับรูปแบบอาชีพและสไตล์การทำงานของตัวคุณเอง แอพไหนที่ User Interface ใช้ง่ายสำหรับคุณ รองรับปริมาณงานและรูปแบบงานที่ตรงกับข้อมูลงานของคุณ และที่สำคัญที่สุดคือแอพที่ใช้นั้นต้องมีฟีเจอร์หลักที่จะช่วยแก้ปัญหาให้กับคุณได้ เพราะเมื่อใช้เทคโนโลยีเหล่านี้มาช่วยแล้ว Productivity ของคุณต้องเพิ่มมากขึ้น ดังนั้นคงไม่มีอะไรจะดีไปกว่าการที่คุณต้องลองศึกษาจากทั้ง 7 แอพผู้ช่วยในการจัดตารางงานยอดฮิตเหล่านี้ ที่เราสรุปมาให้หรือลองไปดาวน์โหลดมาใช้เสียก่อน 1. Planner Pro แอพจัดตารางงาน…

บนโลกนี้มีปัญหามากมายให้มากระทบให้เราก้าวข้ามผ่านไป แต่บางครั้งปัญหาก็ถาโถมเข้าใส่จนทำให้เกิด “ความรู้สึกดาวน์” หรืออาการจิตตก หลายครั้งหลายคนสามารถก้าวข้ามภาวะนั้นได้ด้วยตัวเองผ่านประสบการณ์หรือความช่วยเหลือจากผู้เชี่ยวชาญ แต่ก็ไม่ใช่ทุกคนที่ทำเช่นนั้นได้ จนหลายครั้งความรู้สึกยิ่งดำดิ่งลึกลงไปเรื่อย ๆ กว่าจะดึงสติไหวตัวทัน ความคิดก็พาโลดแล่นไปไกล.. ในบทความนี้เราจึงปรารถนาพาทุกคนไปลองสังเกตตัวเองเบื้องต้น เพื่อให้รู้เท่าทัน และรู้วิธีทางป้องกันตัวเองให้ไม่ไถลลึกลงไปตามความรู้สึกดาวน์นั้น *ข้อสำคัญ* คุณไม่จำเป็นเร่งรีบกับสิ่งนี้ หรือคิดว่าต้องทำมันให้ได้ทั้งหมด ให้คุณผ่อนคลายและเพียงแค่เลือกสิ่งที่เหมาะสมกับตัวคุณ คุณอาจจะเป็นคนที่ “อัพ” ผ่านตรงนี้ไปได้อย่างงดงาม “Your story isn’t over” ลองสังเกต.. ความรู้สึกดาวน์ เกิดขึ้นได้อย่างไร ? ความรู้สึกดาวน์ของแต่ละคนมีลักษณะหลากหลายแตกต่างกันไป แต่โดยส่วนมากแล้วจะเป็นความรู้สึกเชิงลบ รู้สึกเหงา เศร้า หดหู่ จมอยู่กับโลกแห่งความคิด ไม่อยากออกไปไหน ไม่อยากพบเจอใคร ไม่อยากทำอะไร แม้แต่สิ่งที่ตัวเองชื่นชอบก็ไม่สามารถทำได้ และถ้าถามว่าสาเหตุเกิดจากอะไร ? ต้องบอกเลยว่าเกิดได้หลายสาเหตุมาก ทั้งเหตุการณ์ที่เผชิญหน้าโดยตรง หรือเหตุการณ์ของคนอื่นที่มากระทบ บรรยากาศที่ชวนหดหู่ รวมถึงการมองดูสิ่งเก่า ๆ ที่อาจจะเคยเป็นประสบการณ์ที่ไม่ดีต่อจิตใจของคุณ ก็จะทำให้เกิดอาการจิตตกนี้ได้ หากคุณเข้าใจ “จุดกำเนิด” และ “รู้เท่าทัน” ในการรับรู้ความรู้สึกนี้ได้ สิ่งนั้นจะช่วยเป็นกุญแจสำคัญที่จะทำให้คุณสามารถก้าวข้ามผ่านความรู้สึกดาวน์นั้นไปได้ รู้ตัว รู้ใจ รู้ทัน ความรู้สึกดาวน์ ก่อนเสี่ยงซึมเศร้า อย่างที่บอกไป.. คุณไม่จำเป็นต้องเร่งรีบทำมันให้ได้ทั้งหมด สำคัญคือต้องผ่อนคลาย และเลือกสิ่งที่เหมาะสมกับการดำเนินชีวิตของคุณควบคู่กันไป ดังนั้นทริคในส่วนนี้จะเป็นวิธีที่ทำให้เรารู้ตัว รู้ใจ รู้ทัน ตัวเอง อีกทั้งยังสามารถ “หลีกเลี่ยง” ความรู้สึกดาวน์ ผ่อนหนักให้เป็นเบาได้ ไม่ก็หายจากความรู้สึกดาวน์นั้นได้เลย เราไปดูกันเลยดีกว่าว่าจะต้องทำอย่างไร 1. “อย่า” หาคำตอบจากความคิด ในทุกครั้งที่คุณอินกับความรู้สึกดาวน์ มักจะมีปัญหาหรือความกังวลใจเข้ามากระทบ เราต้อง “อย่า”…

เอาใจคนชอบอยู่คนเดียว.. ด้วย 10 เทรนด์ที่กำลังมาแรงในช่วงนี้ กิจกรรมสุดฮิตสุด Hype ของคน introvert คนที่ชอบอยู่กับตัวเองมากกว่าอยู่กับคนอื่น น่าจะถูกใจชาวสันโดษที่อยากหากิจกรรมคลายเครียด เติมสีสันให้ชีวิต มารวมกันตรงนี้ได้เลย !.. วันนี้เรามีกิจกรรมดี ๆ มาแนะนำ จะมีอะไรที่มาแรงกันบ้างนั้นตามไปดูกันเลย 10 กิจกรรมของคน introvert รับรองถูกใจ 1. ทำความสะอาด หรือจัดบ้านให้เรียบร้อย สภาพแวดล้อมมีผลกับการใช้ชีวิตเป็นอย่างมาก พอเข้าสู่วัยทำงานเรามักจะมองหาความสุขที่เป็นภาพใหญ่ จนมองข้ามความสุขที่เรียบง่าย อย่างเช่นเรื่องการจัดบ้านให้สะอาดน่าอยู่ ที่จะช่วยให้ร่างกายผ่อนคลาย เป็นการสร้างความสุขเล็ก ๆ ด้วยตัวเอง อีกทั้งยังส่งผลต่อการจัดลำดับความคิดได้อีกด้วย เพราะร่างกายมนุษย์จะดูดซับสิ่งที่เห็นบ่อย ๆ และตอบสนองด้วยการกระทำสิ่งที่สอดคล้องกับบรรยากาศรอบตัว จึงเป็นเหตุผลว่าทำไมบ้านที่ดูไม่เป็นระเบียบเรียบร้อย จะทำให้เรามีความคิดที่ฟุ้งซ่านตามมา ที่สำคัญการจัดบ้านจะทำให้รู้สึกภูมิใจและขอบคุณตัวเองได้ทุกวัน 2. ออกกำลังกายเพื่อสุขภาพ อย่างที่เราทราบกันดีว่าชาว introvert ชอบอยู่กับตัวเอง มากกว่าออกไปพบปะผู้คนเยอะ ๆ ดังนั้น กิจกรรมอย่างการออกกำลังกายก็เป็นกิจกรรมที่ช่วยลดความเบื่อหน่ายได้ดี นอกจากนี้การออกกำลังกายเป็นประจำ จะทำให้ร่างกายหลั่งสารความสุขบางอย่างออกมา จึงทำให้ร่างกายรู้สึกสดชื่น กระปรี้กระเปร่า ส่งผลดีต่อสุขภาพร่างกายและจิตใจอีกด้วย อีกทั้งในปัจจุบันยังมีอุปกรณ์ออกกำลังกายมากมายที่สามารถหาเวลาว่างของวันเริ่มต้นง่าย ๆ จากที่บ้านได้เลย เคล็ดลับสำคัญคือตั้งเป้าหมาย กำหนดมิชชั่นให้กับการออกกำลังกายนั้น ๆ เสมือนการเล่นเกมอย่างนึง แค่นี้ก็ฟินได้คนเดียวไม่ต้องแคร์ใคร 3. ฟังเพลงที่ชอบ ดูหนังหรือซีรีส์เรื่องโปรด เวลาเครียดหรือกังวลเรื่องงาน การอยู่กับตัวเองได้ดีอย่างมีคุณภาพอย่างนึงเลยก็คือการเสพสื่อมีเดียที่สามารถเอนเตอร์เทนจิตใจคุณได้ดีกว่าสิ่งใด การฟังเพลงในสไตล์ที่คุณโปรดปราน หรือการดูซีรีส์-หนังเรื่องโปรด เป็นการผ่อนคลายความเครียดให้กับสมองได้ อย่างน้อย ๆ กล้ามเนื้อสมองคุณก็รัดเกร็งน้อยลงโดยไม่รู้ตัวเลยล่ะ ! ยิ่งไปกว่านั้น.. เชื่อว่าหากคุณได้ใช้เวลาไปกับความบันเทิง เสพผลงานของศิลปินที่คุณชื่นชอบ เวลาจะถูกเผาผลาญไปอย่างรวดเร็ว ยิ่งทำให้คุณมีความสุข และมีกำลังใจในการทำงานมากขึ้น 4.…

ปัญหาเรื่องสายตาเล็ก ๆ อาจเป็นสัญญาณเตือนสุขภาพตาครั้งยิ่งใหญ่.. คนเรามักจะใช้สายตาเป็นประจำในทุกวัน ขึ้นอยู่กับว่าจะใช้สายตาไปกับอะไร ยิ่งหนุ่มสาววัยทำงานที่ใช้งานอวัยวะนี้เยอะกว่าคนรุ่นอื่น และเสี่ยงกับ ปัญหาสายตา เพราะส่วนใหญ่ต้องนั่งหน้าจอคอมฯ ในทุก ๆ วัน แถมชีวิตประจำวันของพวกเรายุคนี้หนีไม่พ้นการดูหน้าจอโทรศัพท์อยู่เสมอ ๆ เล่นเกมส์ ดูซีรีย์ อ่านเมล ตอบแชท ซึ่งแน่นอนว่าหากคุณใช้สายตาไม่เหมาะสมในแต่ละวัน จะส่งผลต่อสุขภาพตาในระยะยาวได้อย่างแน่นอน และหมั่นสังเกตอาการ เพราะหากปล่อยไว้นาน อาจทำให้ดวงตาลดอายุไขการใช้งานได้ไวมากกว่าเดิม ซึ่งเป็นสิ่งที่เป็นอันตรายมาก ๆ ในบทความนี้จึงอยากเชิญชวนทุกคนให้เริ่มหันมาดูแลสายตาตั้งแต่วันนี้ และจะพาทุกคนไปดูสัญญาณเตือนครั้งแรกให้ลองได้สังเกตตัวเองกันก่อน พร้อมแนะนำ 5 โรคปัญหาสายตาที่พบได้บ่อยมีอะไรบ้าง เริ่มต้น.. สังเกตอาการกันก่อน สัญญาณเตือนที่กำลังบอกว่าคุณจะเริ่มมี ปัญหาสายตา แล้วนะ นั่นก็คือ “ภาวะอาการตาล้า” ที่มีจุดสังเกตมากมายหลายอย่าง และที่น่ากลัวคือ คุณรู้ไหมว่า ?! ทุกคนอาจจะเป็นกันอยู่แล้ว แต่ไม่เคยสังเกตมาก่อน ซึ่งสาเหตุนั้นเกิดจากการใช้ดวงตาโดยไม่ได้หยุดพักจึงทำให้เกิดอาการตาล้า โดยลักษณะอาการมีรายละเอียดดังต่อไปนี้ ซึ่งสาเหตุเหล่านี้เป็นสิ่งที่สามารถเกิดขึ้นได้บ่อย ซึ่งถือว่าเป็นสัญญาณสุขภาพตาที่ไม่ค่อยดีนัก เบื้องต้นคุณอาจจะพิจารณาจากอาการเหล่านี้แล้วลองหาทางแก้ไปก่อนได้ แต่ทั้งนี้อาการตาล้า อาจเป็นสัญญาณของการบ่งบอกว่าเป็นโรคทางตาชนิดอื่นได้อีกด้วย ถ้าหากคุณเป็นแทบทุกข้อ ขอแนะนำปรึกษาแพทย์เฉพาะทางเพื่อประเมินและวินิจฉัยจะเป็นการดีที่สุด เพื่อที่จะหาทางป้องกันไม่ให้เกิดโรค เพราะมีโรคตาหลายชนิดเหมือนกัน ถ้าหากเป็นแล้วจะไม่สามารถรักษาได้ 5 โรคปัญหาสายตาที่พบได้บ่อยมีอะไรบ้าง ทีนี้ก็มาถึง 5 โรคปัญหาเรื่องสายตาที่สามารถพบได้บ่อย โดยโรคที่คัดมานั้นส่วนใหญ่แล้วมักจะเกิดจากพฤติกรรมการใช้สายตาของแต่ละคนเป็นหลัก และอาจเกี่ยวข้องกับอายุที่เพิ่มมากขึ้นก็ได้ด้วยเช่นกัน ถ้าหากคุณไม่มีการดูแลสุขภาพตาที่ดีหรือปล่อยปละละเลยแล้วละก็ สามารถทำให้เกิดโรคเหล่านี้ได้เช่นเดียวกัน 1. สายตาผิดปกติ ปัญหาเรื่องสายตาผิดปกติ คือสิ่งที่คนทุกคนบนโลกต้องเป็น ไม่ว่าจะเป็น สายตาสั้น (มองไกล ๆ ไม่ได้เห็นภาพเบลอ) สายตายาว (มองใกล้ ๆ ไม่ได้เห็นภาพเบลอ) สายตาเอียง (ภาพขาดความคมชัด) หรือสายตายาวในช่วงวัยที่อายุเพิ่มมากขึ้น…