*Trendy Now
ชั่วโมงนี้ไม่มีใครกล้าปฏิเสธความร้อนแรงของ House of the Dragon ซีรีส์ยอดนิยมส่งท้ายปี ดีไม่แพ้ซีรีส์ในสตอรี่ไลน์เดียวกันอย่าง Game of Thrones และเชื่อไหมว่า.. เพียงแค่ซีซันที่หนึ่งก็สามารถโกยสกอร์จากบ้าน imdb ไปถึง 8.6/10 และจาก Rotten Tomatoes 86% หากคุณเป็นคนนึงที่ได้ดูซีรีส์เรื่องนี้แล้ว จะเห็นว่าตัวละครใน House of the Dragon มีความโดดเด่นและบุคลิกลักษณะที่แตกต่างกันอย่างน่าสนใจ ความรู้สึกนึกคิดและการกระทำของตัวละครนึงมักพาคุณไปเจอประเด็นต่าง ๆ ที่น่าตื่นเต้น ซับซ้อนแต่ก็สอดประสานกันได้อย่างสนุก…
*รักโลก รักสุขภาพ
ดาเมจรุนแรงมากสำหรับกระแส Sustainability รณรงค์ให้คนหันมาดูแลสิ่งแวดล้อมกันมากขึ้น กระแสพุ่งตรงแรงที่ตั้งแต่ระดับตัวบุคคล ครอบครัว คนรักสุขภาพมากขึ้นและก็รักษ์โลกไปด้วย ไปจนถึงระดับอุตสาหกรรมขนาดเล็ก-ใหญ่ บริษัทแบรนด์ใหญ่ ๆ รีแบรนด์ตัวเองให้เป็นสาวก Eco Friendly ออกแคมเปญโปรโมท Sustainability มากมาย…
ขายได้ขายดี ตรงใจลูกค้า ใช้ “Personalized marketing” ตอบโจทย์ธุรกิจ
“Put the Right Man on the Right Job” วิธีเลือกคนให้เหมาะกับงาน
การเรียนภาษาใครว่าต้องจริงจังเคร่งเครียดเสมอไป วันนี้เราได้รวบรวมแอปพลิเคชั่นเรียนภาษาต่างประเทศหรือ แอปเรียนภาษา ยอดนิยม ที่มีคะแนนรีวิวสูง ๆ ทั้งนั้น ใครหลายคนต่างบอกเป็นเสียงเดียวกันว่า “ได้ผลจริง” และนอกจากเรียนภาษาที่สองหรือสามจะเป็นการพัฒนาตนเอง เพิ่มสกิลและศักยภาพในการทำงานแล้ว ขอบอกเลยว่าการเลือกเรียนภาษาผ่านแอปพลิเคชั่นแบบออนไลน์นั้น สะดวก ประหยัดค่าเดินทาง และยังแฝงไปด้วยความสนุกเพลิดเพลิน อีกทั้งยังช่วยสร้างการจดจำได้ดีกว่าบทเรียนเล่มหนา ๆ ที่ต้องนั่งท่องจำแต่ไม่เคยได้ออกเสียงหรือเขียนจริง ซึ่งแอปเหล่านี้ถือว่าเป็นตัวช่วยสำคัญที่ทำให้ทักษะในการเรียนพัฒนาได้มากยิ่งขึ้นอีกด้วย 7 แอปเรียนภาษา…
กล้าพูดได้อย่างเต็มปากว่าในทุกวินาทีนี้ไม่มีใครอีกแล้วที่จะไม่รู้จักปัญญาประดิษฐ์ หรือ เอไอ เทคโนโลยีเปลี่ยนโลกที่มีการพัฒนาเติบโตอย่างก้าวกระโดด จนกลายเป็นสิ่งมหัศจรรย์ประจำปี 2023 นี้ อย่างเจ้า “ChatGPT” ปัญญาประดิษฐ์ เอไอสมองเพชร ตัวช่วยชั้นดีที่เข้ามาสร้างความฮือฮา สร้างความตื่นตัวให้กับทุกวงการ รวมถึงบางส่วนงานที่ยกเอาการใช้ ChatGPT เข้ามาปฏิบัติหน้าที่แทนคนจริง ๆ บ้างแล้ว ถึงจะอย่างนั้น.. ก็อย่าลืมว่ามนุษย์อย่างเราก็คือผู้สร้างเจ้าสิ่งประดิษฐ์นี้ขึ้นมา แทนที่เราจะไปมัวนั่งกลัวว่าปัญญาประดิษฐ์เหล่านี้จะเข้ามา Disrupt เรา จะดีกว่าไหม ??? ถ้าหากเราพลิกสถานการณ์จากผู้ตามเป็นผู้ควบคุมแทน…
“Good health is true wealth” สุขภาพดีคือความมั่งคั่งที่แท้จริง buzzword คุ้นหูนี้ไม่ได้กล่าวเกินจริงแต่อย่างใด เมื่อเราทุกคนต่างรู้ดีว่าโลกของเราในทุกวันนี้ได้รับผลร้ายทั้งทางตรงและทางอ้อมจากอุตสาหกรรม ภาวะเรือนกระจก การตัดไม้ทำลายป่าของมนุษย์ ส่งผลให้สิ่งมีเจือปนในอากาศ สารเคมีในอาหาร นำพามาซึ่งเชื้อโรค แบคทีเรีย ไวรัส และโรคภัยไข้เจ็บสายพันธุ์ใหม่ ๆ เกิดขึ้นอยู่เสมอ และเริ่มมีกลุ่มคนที่ตระหนักถึงภัยคุกคามที่มองไม่เห็นนี้เพิ่มขึ้นเรื่อย…
ยุคนี้นับว่าเป็นยุคแห่งการทำ Content Marketing เพื่อให้เกิดไวรัล ไม่ว่าจะเป็นข่าวสาร บทความ วลีเด็ด คำคม แบนเนอร์ คลิปวีดีโอ…
อ่านหัวข้อแล้ว ก่อนอื่นต้องออกตัวก่อนว่า เราไม่ได้จะบอกว่าการหาลูกค้าใหม่เป็นเรื่องที่ไม่จำเป็นหรือกลยุทธ์การลดราคาเป็นสิ่งที่ไม่ควรใช้ แต่อยากให้ลองคิดว่า หากลูกค้าที่ได้มามีแต่ลูกค้าครั้งเดียว (one-time customer) คุณก็คงต้องลดราคาอยู่เรื่อยไป จนกระทั้งนั่นกลายเป็น “ราคาปกติ”…
ลองทำไปด้วยกัน.. สร้าง Business Model Canvas โมเดลธุรกิจที่เน้นความเร็ว รองรับการเปลี่ยนแปลง
โลกธุรกิจยุคดิจิทัลทุกวันนี้.. การแข่งขันสูง ต้องแข่งกับเวลา วิธีบริหารแบบเดิมที่เน้นวางแผนกลยุทธ์ให้แน่นอนก่อนแล้วค่อยลงมือทำ ถือว่าช้าเกินไปและใช้ไม่ได้ผลดีกับยุคนี้แล้ว ซึ่งปัญหานี้ก่อให้เกิดโซลูชันการบริหารแบบใหม่ คือ “การบริหารด้วย Business Model…
Main Focus Digital Disruption มีอิทธิพลต่อวิถีชีวิตของผู้คนตลอดช่วงทศวรรษที่ผ่านมากลยุทธ์ 4E เข้ามาแทนที่ 4P เมื่อใช้ร่วมกับ Martech…
ถอดบทเรียน “ธุรกิจเจ๊ง” เช็คความเสี่ยงว่าธุรกิจคุณเข้าขั้นวิกฤตแล้วหรือยัง ? ปกติแล้วบทความส่วนใหญ่จะให้หนทางทำอย่างไรก็ได้ให้ธุรกิจประสบความสำเร็จ พร้อมแนะนำเคล็ดลับต่าง ๆ มากมาย แต่ถ้าหากคุณกำลังเริ่มต้นทำธุรกิจหรือทำธุรกิจแล้วกำลังประสบกับความเสี่ยงในการทำให้ ธุรกิจเจ๊ง…
ธุรกิจเริ่มปัง จะ จดทะเบียนบริษัท แบบไหนดี ? ทุกคน ทุกคนรู้มั๊ยว่าทุกวันนี้การเริ่มทำธุรกิจไม่ใช่เรื่องยากเหมือนในอดีต เพราะเทคโนโลยีมีส่วนสำคัญในการผลักดันธุรกิจให้เดินไปข้างหน้าได้อย่างรวดเร็ว แต่ก็ไม่ใช่ว่าเริ่มต้นแล้วจะสำเร็จทุกรายหรอกนะ ดังนั้นก่อนเริ่มทำธุรกิจ…
Athena new release
ถอดบทเรียน “ธุรกิจเจ๊ง” เช็คความเสี่ยงว่าธุรกิจคุณเข้าขั้นวิกฤตแล้วหรือยัง ? ปกติแล้วบทความส่วนใหญ่จะให้หนทางทำอย่างไรก็ได้ให้ธุรกิจประสบความสำเร็จ พร้อมแนะนำเคล็ดลับต่าง ๆ มากมาย แต่ถ้าหากคุณกำลังเริ่มต้นทำธุรกิจหรือทำธุรกิจแล้วกำลังประสบกับความเสี่ยงในการทำให้ ธุรกิจเจ๊ง…
คอร์สอบรมนี้สอนอะไร ? Convincing จิตวิทยาและวาทศิลป์ในการโน้มน้าวใจ “เคล็ดลับ! การโน้มน้าวใจคนให้สำเร็จ ด้วยเทคนิคเชิงจิตวิทยาและศิลปะการพูด”หลักการและเหตุผลการดำเนินธุรกิจในปัจจุบันหลากหลายองค์กรต่างเห็นความสำคัญถึงการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์”บุคลากร”ทางด้านทัศนคติกระบวนการความคิดให้เกิดความสุขในการทำงาน องค์กรจึงต้องนำศาสตร์และศิลป์ทางจิตวิทยามาประยุกต์ใช้ในการวางแผน บริหารจัดการ การจูงใจ การเจรจาต่อรอง…
คอร์สอบรมนี้สอนอะไร ? หลักสูตร Generative AI for Productivity เรียนออนไลน์ผ่าน Zoom Meeting…
เปิดรับสมัครแล้ว คอร์สเรียนออนไลน์ “ก้าวแรกสู่ การพูดในที่สาธารณะ” คอร์สเรียนทักษะการพูดในที่สาธารณะที่โฟกัสตรงจุด ทำให้คุณพัฒนาทักษะการพูดเป็นเร็วขึ้น SPEAK SPARK ได้กลั่นกรอง “ศาสตร์และศิลป์”…
คอร์สอบรมนี้สอนอะไร ? OKRs & Performance Management for Supervisor หลักสูตรฝึกอบรมออนไลน์ OKRs…
คอร์สอบรมนี้สอนอะไร ? 7 Steps to Success 7 ทักษะสู่การเป็นนักขายมือทอง “ขายอย่างไร? ให้ตอบโจทย์ตรงใจลูกค้า ได้ทั้งยอดขายและความสัมพันธ์”…
คอร์สอบรมนี้สอนอะไร ? หลักสูตรวุฒิบัตร การบริหารความเสี่ยงองค์กร รุ่นที่ 24 (Risk Management รุ่นที่ 24) หลักการและเหตุผล…
คอร์สอบรมนี้สอนอะไร ? Marketing Analysis in Action หลักสูตรฝึกอบรมออนไลน์ การวิเคราะห์ทางการตลาด เรียนออนไลน์ผ่าน Zoom Meeting…
คอร์สอบรมนี้สอนอะไร ? การกำหนดเป้าหมายและตัวชี้วัดผลงานขององค์กรเพื่อให้ได้งานเชิงพัฒนามากขึ้น หลายองค์กรได้เลือกทำการปรับปรุงแนวทางการกำหนดตัวชี้วัดผลงานเช่น KPIs โดยเปลี่ยนไปเป็นการตั้งเป้าหมายในเชิงพัฒนา รวมทั้งการกำหนดตัวชี้วัดผลงานแบบที่มุ่งเหตุที่ทำให้เกิดผล และผลลัพธ์ปลายทางที่ต้องการ มากกว่าที่จะตั้งตัวชี้วัดผลงานแบบงานประจำ และตัวชี้วัดผลงานที่มุ่งวัดผลเบื้องต้นเท่านั้น…
คอร์สอบรมนี้สอนอะไร ? ทําความรู้จักกับไคเซ็น (KAIZEN) เครื่องมือที่ช่วยในการทําไคเซ็นในสํานักงาน หมวดหมู่ งานบุคคล HR การทำงาน…
ไม่ตกเทรนด์ Eco Friendly รักษ์โลกด้วยแอปพลิเคชัน Sustainability
ดาเมจรุนแรงมากสำหรับกระแส Sustainability รณรงค์ให้คนหันมาดูแลสิ่งแวดล้อมกันมากขึ้น กระแสพุ่งตรงแรงที่ตั้งแต่ระดับตัวบุคคล ครอบครัว คนรักสุขภาพมากขึ้นและก็รักษ์โลกไปด้วย ไปจนถึงระดับอุตสาหกรรมขนาดเล็ก-ใหญ่ บริษัทแบรนด์ใหญ่ ๆ รีแบรนด์ตัวเองให้เป็นสาวก Eco Friendly ออกแคมเปญโปรโมท Sustainability มากมาย ตลอดจนการลงทุนาสร้างโปรเจคอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมที่ไม่แสวงหาผลกำไร และแน่นอนว่ามันคีพคูลเข้ากับเทรนด์ Eco Friendly ในเจเนอเรชั่นนี้มาก…
หนุ่มสาววัยทำงานที่อาจจะทำงานมาได้สักพักจนเริ่มมีความมั่นคงทางฐานะการเงิน และกำลังคิดจะใช้จ่ายเงินก้อนใหญ่ที่สุดในชีวิต หรือเป็นหนี้ก้อนโตอย่างการลงทุนเพื่อซื้อที่อยู่อาศัย เนื้อหาในบทความนี้ส่วนนึงได้เรียบเรียงจากหนังสือ “Talent of Money” by Tokio Godo ซึ่งมีข้อคิดดี ๆ ที่น่าสนใจ เป็นคำแนะนำอีกด้านหนึ่งก่อนตัดสินใจ ซื้อบ้าน ช่วยให้คุณตระหนักว่า คุณควรเช่าหรือซื้อ ? และรวมถึงนำเสนอแนวคิดง่าย ๆ ก่อนเลือกที่อยู่อาศัย อ่านจบคุณจะมีข้อมูลอีกด้านหนึ่งที่คุณอาจจะไม่เคยนึกถึงมาก่อน ช่วยให้คิดรอบด้านได้อย่างรอบคอบ ก่อนจะตัดสินใจใช้เงินเก็บทั้งชีวิต ซื้อบ้านหรือเช่าบ้าน จั่วหัวมาแบบตรง ๆ ไม่อ้อมค้อม แต่ก็บอกได้ตรง ๆ เช่นกันว่า.. ไม่สามารถฟันธงได้ว่าการซื้อบ้านหรือเช่าบ้านแบบไหนดีกว่ากัน เพราะคำตอบนี้ขึ้นอยู่กับปัจจัยด้านรสนิยมของแต่ละคนด้วย แต่สิ่งที่แยกสองสิ่งนี้ออกจากกันนั่นคือข้อมูลด้านความสมเหตุสมผลทางเศรษฐกิจ คำแนะนำเบื้องต้นคือหากคุณมองว่าบ้านเป็นอสังหาริมทรัยพ์ที่มีมูลค่าทางเศรษฐกิจ อย่างแรกเลยคือคุณต้องแยกประเด็นของ “การครอบครอง” กับ “การใช้ประโยชน์” ออกจากกันโดยปราศจากอารมณ์และความรู้สึกอยากได้ อยากมีเสียก่อน เพราะปัจจุบันไม่ได้มีความจำเป็นอีกต่อไปแล้วที่เราจะต้องอยู่อาศัยที่ใดทีนึงไปตลอดชีวิต ทางเลือกของคนเรามีมากขึ้น เราอาจโยกย้ายธุรกิจ ขยับขยายตามแหล่งทำมาหากินใหม่ ๆ หรือหากคุณเป็นพนักงานบริษัท คุณอาจเปลี่ยนงานไปยังที่ใหม่ ๆ ที่อัพเงินเดือนให้มากขึ้น หรือถ้าคุณไม่ย้ายที่ทำงาน แต่บริษัทเองก็อาจย้ายที่จากการรวบควบกิจการก็เป็นไปได้เช่นกัน.. ดังนั้น ที่ตั้ง ทำเล พื้นที่ใช้สอย หรือแบบแปลนบ้านก็ยังเปลี่ยนไปตามปัจจัยอื่น ๆ ได้ อย่างเช่น การมีลูก สถานที่ตั้งของโรงเรียนของลูก หรือในอนาคตเมื่อลูกโต คุณก็ต้องเจอปัจจัยใหม่ ๆ เพิ่ม อย่างที่ตั้งของที่ทำงานของลูก และบางครั้งตัวคุณเองก็อาจจะมีแนวคิดใหม่ ๆ อย่างต้องการย่นระยะเวลาในการเดินทางด้วยการหาที่อยู่ใกล้ ๆ ตัวเมืองเพื่อเร่งทำงาน หรือแม้แต่อยากอยู่ท่ามกลางธรรมชาติมากขึ้นด้วยการขยับออกมาในเขตชานเมือง เห็นได้ชัดว่าเมื่อความชอบของคุณเปลี่ยนไป แฟชั่นก็จะเปลี่ยนตาม ทรงผม เสื้อผ้าที่ใส่ก็เปลี่ยนไปตามเวลา สถานที่ และโอกาส ดังนั้นแนวความคิดที่ว่า…
การพัฒนาตนเอง เพื่อเพิ่มความสามารถในด้านต่าง ๆ ล้วนเป็นสิ่งที่จำเป็นต่อชีวิตและการทำงาน เพราะเป็นหนทางสุจริตเพียงหนทางเดียวที่จะนำพาตัวคุณเองไปสู่เป้าหมายที่ตั้งไว้ให้สำเร็จหรือมีคุณภาพชีวิตดีกว่าที่เป็นมาได้ เหนือสิ่งอื่นใดนั้น คุณควรจะต้องเริ่มจากการค้นหา “วิธี” เพื่อ “พัฒนาตนเอง” ให้ได้อย่างมีประสิทธิภาพและเหมาะสมกับตัวคุณเสียก่อน และตามท๊อปปิคตัวหนาของเราในวันนี้เลยที่ต้องการเน้นย้ำว่า.. การพัฒนาตนเองที่ได้ผลดีนั้น คุณไม่จำเป็นต้องแข่งกับใครเพื่อที่จะเหนือกว่า หรือแม้แต่การแข่งขันกับตัวเองในแบบฉบับเมื่อวาน ก็ขอแนะนำว่าไม่ควรเช่นกัน !!! คำคมติดหูที่คุณมักได้ยินบ่อย ๆ เช่นว่า “คุณคนนี้ต้องดีกว่าเมื่อวาน..” ใด ๆ เหล่านั้น..ขอให้ลืมมันซะ อย่าไปกดดันตัวเอง เพราะชีวิตของแต่ละคนมีขึ้นและลงตลอดเวลา ดังนั้นการตั้งมายเซ็ตแบบนั้นจะส่งผลต่อจิตใจในเชิงลบได้ เราไม่จำเป็นต้องไปแข่งขันกับใคร ไม่จำเป็นต้องเปรียบเทียบตัวเราเองกับใคร คนคนเดียวที่เราควรจะแข่งขันด้วยก็คือตัวเราเองในวันนี้ กำหนดเป้าหมายให้แน่ชัด เพื่อให้การ “พัฒนาตนเอง” มีประสิทธิภาพ ก่อนจะเข้าสู่วิธี “พัฒนาตัวเอง” สิ่งสำคัญแน่ชัดที่สุด คือการ “กำหนดเป้าหมาย” ให้ชัดเจน และควรจะกำหนด 1 เป้าหมายหลัก และเป็นประโยคสั้น ๆ เพื่อที่คุณจะสามารถมุ่งไปสู่เป้าหมายได้อย่างชัดเจน ไม่วอกแวก ยกตัวอย่างเช่น จากตัวอย่างจะเห็นแล้วว่าเป้าหมายนั้นสามารถเป็นได้หลายอย่าง ซึ่งบางอย่างอาจจะกำหนดระยะเวลาในการทำได้ แต่บางอย่างจะต้องทำสม่ำเสมอและไม่ควรหยุดเด็ดขาด ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับคุณเลยว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้เป็นอย่างไร และเมื่อเป้าหมายสำเร็จจะขยายเพิ่มเติมหรือไม่ อันนี้ก็สุดแล้วแต่คุณเลย ทริคการกำหนดเป้าหมายอย่างไรให้มีประสิทธิภาพและได้ประสิทธิผลดีเยี่ยม ไปดูได้ที่.. 6 วิธี พัฒนาตนเอง แบบ “แข่งกับตัวเอง” มั่นคงและประสบความสำเร็จ รแนะนำ 6 วิธีพัฒนาตัวเอง แบบมั่นคง ไม่จำเป็นต้องรีบร้อน หรือยัดเยียดให้ประสบความสำเร็จได้ไว ๆ ขอเพียงแค่คุณตั้งมั่นและปักหมุดเป้าหมายที่ได้เลือกให้ดี และพยายามทำสิ่งต่าง ๆ เหล่านี้ไปเรื่อย ๆ แบบไม่ต้องกดดันตัวเอง เพราะการพัฒนาตัวเองควรจะเป็นสิ่งที่ทำให้ตัวเองรู้สึกดีขึ้น คนรอบข้างดีขึ้น ไม่ใช่พัฒนาตัวเองเพื่อให้ความสุขลดน้อยลง แล้วคุณจะรู้ว่า เพียงแค่คุณคนเดียวก็สามารถพิชิตยอดเขาเอเวอร์เรสได้ !…
การมีชีวิตคู่กับใครสักคนไม่ใช่เรื่องยาก แต่การมี “คู่ชีวิต” ที่รวมหัวจมท้ายไปด้วยกันเป็นอะไรที่ยากกว่า และการที่จะเป็นเช่นนั้น มันต้องเกิดขึ้นจากคนสองคน ที่ต้องทำความเข้าใจกัน ยอมรับซึ่งกันและกัน และมีหัวใจให้กันและกัน นับเป็นเรื่องยากมาก ๆ ที่จะหาคน ๆ นั้นเจอ บางครั้งก็ทำให้ชีวิตถึงกับเป๋ไปอีกทาง แต่ถ้าหากมีคู่ที่ดีมาก ๆ ก็นับว่าเป็นโชคดีอย่างหนึ่ง ที่คุณอาจได้พบอะไรที่เหนือความคาดหมาย แล้วการมีคู่ชีวิตที่ดีนั้นมีชัยไปกว่าครึ่งอย่างโบราณว่าไว้นั้นจริงหรือ ? ไปหาคำตอบกัน !.. If you live to be a hundred, I want to live to be a hundred minus one so I never have to live without you.ถ้าเธออยู่ถึงร้อยปี ฉันอยากอยู่ให้ได้แค่ร้อยลบหนึ่งวัน เพื่อที่ฉันจะได้ไม่ต้องอยู่โดยไม่มีเธอแม้แต่วันเดียว มีคู่ชีวิตดี..มีชัยไปกว่าครึ่ง ใช่เรื่องจริงหรือ ?! ถ้าหากคุณสังเกตคนที่เป็นคนใหญ่คนโต หรือคนดังไม่ว่าจะสายอาชีพไหน ส่วนใหญ่พวกเขาจะมีคนอีกคนคอยอยู่เคียงข้างเสมอ และช่วยกันผลักดันกันและกัน จนนำไปสู่เป้าหมายที่ทั้งสองได้ตั้งไว้ และทำให้ประสบความสำเร็จมากมาย ยกตัวอย่างคู่รัก Workaholic อย่าง บารัค โอบามา และมิเชลล์ภรรยาของเขา ที่คอยอยู่เคียงข้างและสนับสนุนอดีตประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกาคนนี้เสมอ จึงไม่ใช่เรื่องแปลกใจเลยว่าทำไมเขาทั้งสองถึงกลายเป็นคู่ชีวิตที่ดี..มีชัยไปกว่าครึ่ง เพราะทั้งคู่ต่างช่วยเหลือซึ่งกันและกันในการพัฒนาประเทศตอนที่ยังดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ให้เป็นไปอย่างครรลองครองธรรม จนมิเชลล์ได้รับฉายา “สุภาพสตรีหมายเลขหนึ่ง” ไปอย่างไม่มีที่ติ ซึ่งนับว่าเป็นคู่สร้าง คู่สมที่เหมาะเป็นตัวอย่างของคนทั้งโลก วิธีสังเกตคู่ชีวิตที่ดี ตามหลักศาสนาพุทธ จากคำตอบที่ได้ก่อนหน้านี้ว่า “มีคู่ชีวิตที่ดี..มีชัยไปกว่าครึ่ง” นับว่าเป็นเรื่องจริง แต่สิ่งที่ดีของแต่ละคนก็จะนิยามแตกต่างกันไป…
“Good health is true wealth” สุขภาพดีคือความมั่งคั่งที่แท้จริง buzzword คุ้นหูนี้ไม่ได้กล่าวเกินจริงแต่อย่างใด เมื่อเราทุกคนต่างรู้ดีว่าโลกของเราในทุกวันนี้ได้รับผลร้ายทั้งทางตรงและทางอ้อมจากอุตสาหกรรม ภาวะเรือนกระจก การตัดไม้ทำลายป่าของมนุษย์ ส่งผลให้สิ่งมีเจือปนในอากาศ สารเคมีในอาหาร นำพามาซึ่งเชื้อโรค แบคทีเรีย ไวรัส และโรคภัยไข้เจ็บสายพันธุ์ใหม่ ๆ เกิดขึ้นอยู่เสมอ และเริ่มมีกลุ่มคนที่ตระหนักถึงภัยคุกคามที่มองไม่เห็นนี้เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ เขาเหล่านั้นต่างให้ความสำคัญกับเรื่องการดูแลสุขภาพ มากขึ้น และยังร่วมรณรงค์ให้ผู้คนตื่นตัวผ่านสื่อฯ หรือแคมเปญต่าง ๆ อยู่เสมอ รวมไปถึงการใช้ แอปดูแลสุขภาพ กันให้มากขึ้นในชีวิตประจำวัน เราทุกคนต่างต้องเผชิญกับสภาพแวดล้อมที่เปลี่ยนแปลงฉับพลันในอนาคตอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ การให้ความสำคัญกับเรื่องนี้จึงสำคัญมาก เริ่มที่ตัวเองเราเองได้ง่าย ๆ โดยต้องหมั่นตรวจเช็กร่างกายตัวเองอยู่เสมอ สำหรับใครที่ไม่ชอบความยุ่งยาก หรือขี้เกียจเดินทางไปตรวจสุขภาพไกลบ้าน เราขอแนะนำ 10 แอปพลิเคชันดูแลสุขภาพของตัวเอง ตัวช่วยสำคัญที่จะยกระดับคุณภาพชีวิตของคุณ ให้ครอบคลุมทั้งร่างกายและจิตใจ สามารถนำไปใช้ได้ในชีวิตประจำวัน ลดการเจ็บป่วยเข้าโรงพยาบาลได้อย่างแน่นอน รวม 10 แอปดูแลสุขภาพ ให้กับตัวเองเป็นประจำทุกวัน สำหรับ แอปดูแลสุขภาพ ทั้ง 10 แอป ที่ได้มีการคัดสรรมานั้น ถือว่ามีความหลากหลายเป็นอย่างมาก คุณไม่จำเป็นต้องโหลดทุกแอป แต่ให้เลือกแอปที่คุณต้องการจะ ดูแลสุขภาพ ร่างกายและจิตใจในด้านไหน แบบใดจะเป็นการดีที่สุด โดยรายละเอียดต่าง ๆ มีดังต่อไปนี้ 1. MyFitnessPal เริ่มกันที่แอปพลิเคชันแรก MyFitnessPal แอปติดตามการรับประทานอาหารในชีวิตประจำวัน มาพร้อมฟังก์ชันการวางแผนออกกำลังกาย ภายในมีข้อมูลอาหารหลากหลาย สามารถสแกนบาร์โค้ดเพื่อตรวจสอบปริมาณแคลอรีอาหารที่ทานได้ เหมาะสำหรับคนรักสุขภาพหรือสาว ๆ ที่ต้องการลดน้ำหนัก และสิ่งนี้เองจะเสริมสร้างสุขภาพที่ดีในระยะยาวได้ 2. Apple Health อีกหนึ่งแอปพลิเคชันติดตามสุขภาพ ตอบโจทย์ผู้ใช้งานอุปกรณ์…
หลายครั้งพฤติกรรมบางอย่างที่แสดงออกมา เราก็ไม่เข้าใจตัวเองว่าทำไมถึงทำแบบนั้น จนทำให้สถานการณ์ที่เป็นอยู่ หรือความสัมพันธ์กับคนรอบข้างแย่ลง หรือแม้แต่ตัวเองก็ไม่พอใจที่แสดงพฤติกรรมเหล่านั้นออกมา แต่ทุกอย่างสามารถแก้ได้ เพียงแค่เรา “เข้าใจตัวเอง” ให้มากยิ่งขึ้น แต่การจะเข้าใจได้นั้น ก็ต้องมีหลักการหรือทฤษฎีมารองรับเสียหน่อย เพื่อการพัฒนาที่ดีและตรงจุด เราขอแนะนำให้รู้จักกับ Satir Model แนวคิดทางด้านจิตวิทยาเพื่อ บำบัดจิต ที่วงการจิตแพทย์ทั่วโลกต่างก็ใช้กันอย่างแพร่หลาย เริ่มต้นเข้าใจตัวเอง ด้วย ซาเทียร์โมเดล บำบัดจิต ก่อนอื่นเรามาทำความรู้จักเกี่ยวกับแนวคิดของ Satir Model กันก่อน โดยแนวคิดนี้คิดโดย เวอร์จิเนีย ซาเทียร์ แพทย์บำบัดครอบครัว ที่ได้นำเรื่องของจิตใจมนุษย์มาเปรียบเทียบเป็นภูเขาน้ำแข็ง ที่ปกติจะมียอดน้ำแข็งโผล่พ้นน้ำ ในขณะที่ภูเขาน้ำแข็งส่วนใหญ่จะอยู่ใต้ก้นบึ้งของมหาสมุทร โดยสามารถแบ่งชั้น ๆ ได้ดังนี้ 1. พฤติกรรมที่แสดงออกมา (Behavior) สิ่งที่เห็นได้ชัดหรือเห็นได้ด้วยตาเปล่า นั่นก็คือพฤติกรรมที่สามารถแสดงออกได้ผ่านทางคำพูด น้ำเสียง อากัปกริยา หรือการแสดงออกต่าง ๆ ที่อาจตอบสนองกับตัวเอง หรือต้องการจะสื่อสารกับผู้อื่น ซึ่งพฤติกรรมเหล่านี้มักจะมาพร้อมกับความรู้สึก ตัวอย่างเช่น ลูกกลับบ้านช้า ไม่เป็นไปตามที่ตกลง พ่อแม่เลยตีลูก ซาเทียร์จัดให้ส่วนนี้เป็นยอดภูเขาน้ำแข็งที่พ้นน้ำ 2. ความรู้สึก (Feelings) ความรู้สึก นับว่าเป็นสิ่งที่เรารู้สึกอยู่ภายในและเลือกที่จะแสดงออกมาให้เห็น เช่น ดีใจ เสียใจ เศร้า หดหู่ สิ้นหวัง ท้อแท้ เหนื่อย กลัว และอื่น ๆ ที่สามารถระบุได้ว่าเป็นความรู้สึก ตัวอย่างเช่น พ่อแม่โกรธลูกที่กลับบ้านช้าสุด ๆ แต่ความรู้สึกของมนุษย์ ไม่ได้มีเพียงแค่ “ความรู้สึก” ที่แสดงออกมาเท่านั้น เพราะความรู้สึกของมนุษย์มีความซับซ้อนขึ้นไปอีกว่า ความรู้สึกที่ได้เกิดขึ้น แท้จริงแล้วในใจลึก ๆ…