Author: athena_abradmin

เมื่อคุณโตขึ้น คุณต้องเผชิญกับการใช้ชีวิตในสังคมขนาดใหญ่ขึ้นตามไปด้วย หรือแม้ว่าคุณจะเป็นคนอินโทรเวิร์ต ก็น่าจะไม่สามารถหลีกเลี่ยงการพบปะและต้องมีปฏิสัมพันธ์กับผู้คนรอบข้าง สิ่งเหล่านั้น.. อาจก่อให้เกิดสิ่งที่เรียกว่า “ความสัมพันธ์” และความสัมพันธ์จะเป็นเชื้อไฟเพิ่มความผูกพัน ความสนิทชิดเชื้อ ไปจนเกิดเป็นความรักได้ แต่ความสัมพันธ์ก็ใช่ว่าจะมีโพสิทีฟ คุณคงเคยได้ยินคำว่า “ความสัมพันธ์เป็นพิษ” หรือ toxic relationship มาบ้างใช่ไหม ?.. ความสัมพันธ์แบบท็อกซิกคือหนึ่งในความสัมพันธ์ที่อยู่ในรูปแบบเนกาทีฟ แต่ยังไม่ถึงกับพังทลาย เปรียบเหมือนพิษในร่างกายที่จะค่อย ๆ กัดกินจนสิ่งมีชีวิตจะสูญสลาย ความสัมพันธ์แบบท็อกซิกนี้ ถ้าคุณเจอกับตัวเองและรู้ตัวได้เร็วก็ควรรีบปลีกตัวถอยห่างให้ไว ก่อนพิษร้ายจะทำลาย แต่ถ้าหากไม่รู้ตัวว่าอยู่ในขั้นท็อกซิกหรือยัง ลองอ่านข้อสรุปต่อไปนี้ที่เราย่อยมาให้อ่านง่าย ๆ เพื่อให้คุณสำรวจว่าความสัมพันธ์ที่คุณมีอยู่กับคนรอบข้างตอนนี้เป็นอย่างไรบ้าง ถ้ามันติดพิษจะได้รักษาทัน ทำความเข้าใจ toxic relationship ความเป็นพิษที่ควรถอย คำว่า toxic relationship สรุปใจความสั้น ๆ ได้ว่าความสัมพันธ์เป็นพิษดังที่กล่าวไปแล้ว ง่าย ๆ คือ.. คุณจะรู้สึกว่าอยู่กับคน ๆ นี้แล้วไม่มีความสุข อยู่แล้วไม่มีความสบายใจ อยู่แล้วไม่ได้เป็นตัวเอง ซึ่งสิ่งเหล่านี้ทุกคนสามารถเจอได้บ่อยครั้ง แต่ก็จะมีบางรูปแบบที่ควรจะถอยให้ห่างให้ไว หรือเลิกคบไปได้เลยก็ได้ยิ่งดี โดยคนลักษณะท็อกซิกที่คุณควรรู้นั้นมีดังต่อไปนี้ 1. คนที่ทำร้ายร่างกายและทำร้ายจิตใจ ในความสัมพันธ์การทำร้ายฝ่ายตรงข้ามไม่ว่าจะด้วยร่างกายหรือทำร้ายด้วยจิตใจ นับว่าเป็นสิ่งที่ไม่ควรทำอย่างยิ่ง และไม่ควรอยู่ในทุก ๆ ความสัมพันธ์ เพราะจะเป็นการบั่นทอนพลังงาน บั่นทอนความเป็นตัวตนของคุณ อีกทั้งยังสามารถสร้างความทรงจำที่เป็นปมและอาจส่งผลต่ออนาคตได้ ถ้าหากคุณเจอคนลักษณะนี้ต้องรีบเลิกคบด่วน หรือรีบหนีไปให้ไกลได้ก็ยิ่งดี เพราะตัวตนของคุณจะสามารถเปลี่ยนไปจากการโดนสิ่งเหล่านี้ได้ 2. คนที่ใช้อำนาจอยู่เหนือกว่าคนอื่น ในความสัมพันธ์ที่มีการใช้อำนาจที่เหนือกว่า จะทำให้ผู้ที่อยู่ด้วยต้องเกรงกลัว และมันจะลดทอนคุณค่าของตัวคุณเองไปอย่างมาก เพราะคุณคงต้องยอมทุกเรื่องเพื่อให้ตัวเองรู้สึกปลอดภัย แต่ความจริงแล้วการที่ต้องทำตามผู้ที่มีอำนาจนับว่าเป็นความสัมพันธ์ toxic ที่สามารถพบได้บ่อยในคู่รักเป็นอย่างมาก ถ้าหากอยู่ไปแล้วไม่มีความสุข ไม่มีคุณค่า แนะนำว่าให้รีบถอยออกมาจะเป็นการดีที่สุด ถ้าคุณเป็นหนึ่งคนในข้อนี้และยังขาดความมั่นใจในการที่จะถอยออกมา แนะนำว่าให้ลองมาสำรวจความรู้สึกและค้นหาคุณค่าของตัวเองดูก็จะถอยได้ง่ายขึ้น อย่าปล่อยเรื้อรังเพราะมันมีโอกาสที่จะส่งผลให้เกิดความรู้สึกดาวน์กับคุณได้ 3. คนที่เมินเฉยไม่เห็นคุณค่าของคนอื่น อีกหนึ่งท็อกซิก ที่ไม่กระทบทั้งทางกายและทางใจตรง ๆ และจริง ๆ แล้วก็ไม่ได้กระทบอะไรเลย.. คุณสำคัญตัวเองมากไป !!! เพราะความสัมพันธ์แบบนี้คุณเป็นเสมือนลมที่พักผ่านเขา ! เจ็บเข้าไปอีก !!! ความเมินเฉยหรือเพิกเฉยต่อคนที่อยู่ด้วยแล้ว นับว่าเป็นความเจ็บปวดอย่างหนึ่งที่ทำให้คนที่อยู่ด้วยรู้สึกไม่สำคัญ รู้สึกว่าตัวเองไม่มีคุณค่า หรือต่อให้ทำดี ๆ…

Read More

จิตวิญญาณที่สมบูรณ์ ย่อมอยู่ในจิตใจที่สมบูรณ์ และร่างกาย.. ที่สมบูรณ์ ประโยคคุ้นหูนี้อาจฟังดูเป็นเรื่องปกติสำหรับใครหลายคน ที่เมื่อลืมตาตื่นขึ้นมา ก็พบกับต้นไม้ใบหญ้าที่พลิ้วไสวคล้ายมีชีวิต คอยโอบล้อม.. และโอบกอดตัวเราและชุมชนอย่างเงียบสงบ จนกระทั่งวันหนึ่งที่โลกของเราเข้าสู่ยุคปฏิวัติอุตสาหกรรม (Industry Revolution) ประโยคที่ว่านี้ก็ฟังดูผิดแปลกไปจากเดิม ผู้คนต่างต้องปรับตัวให้อยู่รอดในระบบ ซึ่งขับเคลื่อนด้วยแรงงานมนุษย์ เครื่องจักร ทรัพยากร และเงินตรา ฟังดูแล้วมันย้อนแย้งกับการ sustain วิถีชีวิตมากเหลือเกิน.. จนกระทั้งกิจกรรมเหล่านั้นดำเนินต่อไปเรื่อย ๆ จนถึงจุดหนึ่งที่โลกและมวลชีวิตเริ่มส่อแวววิกฤติ และนั่นเองทำให้ผู้คนต่างเริ่มโหยหาชีวิตแบบดั้งเดิม และเล็งเห็นถึงผลกระทบของสิ่งแวดล้อมที่ส่งผลมาถึงชีวิตความเป็นอยู่ของตน ผู้คนจึงหันมาดูแลสิ่งแวดล้อมรอบตัวมากขึ้น และเพื่อสนองตอบและสนับสนุนความต้องการดังกล่าว ธุรกิจหลายแบรนด์จึงหันมาสนใจเทรนด์ทางธุรกิจอย่าง Sustainable business กันมากขึ้น ซึ่งไม่เพียงแต่พัฒนาสิ่งแวดล้อมและความเป็นอยู่ให้ดีขึ้นเท่านั้น แต่ยังสร้างการตระหนักรู้ถึงคุณค่าของตัวเราต่อโลกทั้งใบอีกด้วย ทว่าโซลูชันใดบ้างล่ะที่ตอบโจทย์ความยั่งยืนนี้ได้อย่างมีศิลปะ วันนี้เราจะพาทุกท่านไขคำตอบผ่านการมองทฤษฎีในมุมกลับของ อับราฮัม มาสโลว์ (Abraham Maslow) และนำมาประยุกต์ใช้ให้เข้ากับกลยุทธ์ธุรกิจไปพร้อม ๆ กัน Sustainable Business x Creative Economy : ทางรอดของธุรกิจในโลกยุคใหม่ แม้ว่าเทรนด์ธุรกิจเพื่อความยั่งยืนอย่าง Sustainable Business จะเข้ามาตอบโจทย์ด้านความยั่งยืนของผู้คน และรักษ์โลกไปพร้อมกัน ทว่าเราก็ไม่อาจปฏิเสธได้ว่า ‘Creative Economy’ หรือ ‘เศรษฐกิจสร้างสรรค์’ ก็มีบทบาทสำคัญไม่แพ้กันในฐานะที่เป็นกิมมิคที่คอยแต่งแต้มสีสันให้เหล่าธุรกิจพร้อมเติบโตได้อย่างมีศิลปะ โดยเฉพาะการต่อยอดความคิดโดยอาศัยต้นทุนทางวัฒนธรรมหรือทรัพย์สินทางปัญญา (Intellectual property) ที่ไม่ว่าจะเป็นอาหารการกิน งานฝีมือ ดนตรี ศิลปะการแสดง ภาพพิมพ์ แพทย์แผนไทย สิ่งแวดล้อมทางวัฒนธรรม และอื่นอีกมากมาย ล้วนแล้วเป็นจุดแข็งที่ยากจะหาประเทศใดเสมอเหมือน’เศรษฐกิจสร้างสรรค์’ ก็มีบทบาทสำคัญไม่แพ้กันในฐานะที่เป็นกิมมิคที่คอยแต่งแต้มสีสันให้เหล่าธุรกิจพร้อมเติบโตได้อย่างมีศิลปะ โดยเฉพาะการต่อยอดความคิดโดยอาศัยต้นทุนทางวัฒนธรรมหรือทรัพย์สินทางปัญญา (Intellectual property) ที่ไม่ว่าจะเป็นอาหารการกิน งานฝีมือ ดนตรี ศิลปะการแสดง ภาพพิมพ์ แพทย์แผนไทย สิ่งแวดล้อมทางวัฒนธรรม และอื่นอีกมากมาย ล้วนแล้วเป็นจุดแข็งที่ยากจะหาประเทศใดเสมอเหมือน เมื่อทั้งสองความคิดมาบรรจบกัน จึงเกิดการหลอมรวมระหว่าง ฮาร์ดเพาเวอร์ และ ซอฟต์เพาเวอร์ เป็นโซลูชันที่ให้ทั้งศิลปะและความยั่งยืนแบบครบสูตรในหนึ่งเดียว อันสอดคล้องไปด้วยกันกับ SDGs (Sustainable Development Goal) ที่มุ่งเน้นการพัฒนาอย่างยั่งยืน The Reverse of…

Read More

“ฟุตบอลโลก” มหกรรมกีฬาที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก ความขลัง มนต์เสน่ห์ ความคึกคักระดับเอ็กซ์ตรีมในช่วงท้ายปี และฟุตบอลโลก 2022 ปีนี้จัดตั้งที่ประเทศเจ้าภาพที่ได้รับฉายาว่าไข่มุกแห่งเปอร์เซีย ดินแดนร่ำรวยแห่งตะวันออกกลาง ใช่แล้ว.. “กาตาร์” แน่นอนว่างานกีฬาที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลกงานนี้จะสามารถดึงดูดแฟนบอลจากทั่วทุกสารทิศ และผู้คนทั่วโลกต่างต้องให้ความสนใจอย่างไม่ต้องสงสัย นี่คือโอกาสทองในฐานะ “เจ้าบ้าน” ที่จะงัดของดีมาโชว์ให้ชาวโลกประจักษ์แก่แสนยานุภาพของประเทศเล็ก ๆ ที่พื้นที่ส่วนใหญ่เป็นทะเลทราย ทว่าของดีของเจ้าบ้านย้อนแย้งกับความแห้งแล้งของภูมิประเทศ แต่เป็นความร่ำรวยที่สามารถลงทุนผลิตเทคโนโลยีและนวัตกรรมสุดว้าว ซึ่งได้นำมาใช้ในฟุตบอลโลกครั้งนี้ และลิสต์เทคโนโลยีไอเท็มต่อไปนี้.. คุณจะตื่นเต้นที่ได้รู้ว่ามีอะไรบ้างในฟุตบอลโลกกาตาร์ 2022 Semi-Automated Offside Technology & Al Rlhla ระบบ AI ช่วยตรวจจับลูกล้ำหน้า และลูกฟุตบอลฝังเซนเซอร์ ฟีฟ่านำเสนอเทคโนโลยีตรวจจับล้ำหน้าแบบกึ่งอัตโนมัติ (Semi-Automated Offside Technology : SAOT) พูดได้เต็มปากว่าหุ่นยนต์ AI (Artificial Intelligence) ได้เข้ามามีบทบาทในวงการกีฬาแล้ว จากเดิมที่การตัดสินชี้ขาดลูกล้ำหน้าเป็นเรื่องลำบากและถกเถียงกันมาตลอด และถึงแม้ว่าในสนามฟุตบอลจะมีกรรมการผู้ตัดสินหลักในสนาม กรรมการริมเส้น รวมถึงเทคโนโลยีเดิมอย่าง VAR (Video Assistant Referee : ระบบภาพรีเพลย์ เพื่อช่วยกรรมการตัดสินใจ) ก็หาได้แก้ปัญหาไม่ “ฟุตบอลโลกกาตาร์ 2022” นี่คือทัวร์นาเมนต์ใหญ่ระดับโลกทัวร์นาเมนต์แรกที่จะมีเทคโยโลยี AI เข้ามาเกี่ยวข้องกับการชี้ขาดคำตัดสิน เครื่องมือนี้จะใช้ลูกฟุตบอลสมญานาม “Al RIhla” ในภาษาอาหรับที่แปลว่า “การเดินทาง” ซึ่งถือเป็นการปฏิวัติวงการ เพราะ Al RIhla จะฝังเซนเซอร์ไว้ข้างในตรงกลางลูกบอล ทำการเก็บข้อมูลตามตำแหน่งต่าง ๆ ในสนาม และส่งข้อมูลไปยังห้องควบคุมภาพ 500 ครั้งต่อวินาที ถือว่าละเอียดและแม่นยำมากๆ หนำซ้ำในทุกสเตเดี้ยมที่ใช้ในการแข่งขันจะติดตั้งกล้องที่ใช้ AI ที่ใช้ในการติดตามจุดต่าง ๆ ตามร่างกายของนักเตะ การทำงานคือเมื่อการล้ำหน้าเกิดขึ้น เจ้า SAOT จะรวบรวมข้อมูลจาก Al RIhla และกล้องอย่างรวดเร็วและแม่นยำ จากนั้นจะแจ้งเตือนไปที่คอนโทรลรูมที่มีเจ้าหน้าที่คอยซัพพอร์ต เพื่อดึงข้อมูลมาแสดงบนหน้าจอที่แสดงผลด้วยการซิมูเลชัน และถ่ายทอดออกอากาศเพื่อให้ผู้ชมได้เห็นภาพและเข้าใจผลการตัดสินที่ชัดเจนที่สุด เจ้าหน้าที่จะทำการวิเคราะห์ตรวจสอบข้อมูลที่ AI ส่งมาและแจ้งกรรมการผู้ตัดสินในสนามอีกทีเพื่อชี้ขาด Stadium Advanced Cooling…

Read More

โลกธุรกิจยุคดิจิทัลทุกวันนี้.. การแข่งขันสูง ต้องแข่งกับเวลา วิธีบริหารแบบเดิมที่เน้นวางแผนกลยุทธ์ให้แน่นอนก่อนแล้วค่อยลงมือทำ ถือว่าช้าเกินไปและใช้ไม่ได้ผลดีกับยุคนี้แล้ว ซึ่งปัญหานี้ก่อให้เกิดโซลูชันการบริหารแบบใหม่ คือ “การบริหารด้วย Business Model ที่ไม่หยุดนิ่ง” เป็นการบริหารที่เน้นความเร็ว ไวต่อเหตุการณ์ และพร้อมปรับเปลี่ยนอยู่เสมอเพื่อแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นตามแต่ละสถานการณ์.. และเรื่องราวต่อไปนี้เกี่ยวข้องกับการวางแผนกลยุทธ์ธุรกิจด้วย Business Model Canvas เพื่อรองรับกับการบริหารที่เน้นความรวดเร็ว พร้อมปรับเปลี่ยนตลอดเวลาเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีขึ้นเสมอ โมเดลธุรกิจนี้นิยมนำมาใช้กันอย่างกว้างขวางนับตั้งแต่เจ้าของธุรกิจส่วนตัวขนาดเล็ก เจ้าของกิจการขนาดใหญ่ กลุ่มวิทยากรและเหล่าบรรดาที่ปรึกษาธุรกิจ ซึ่งถูกถ่ายถอดจากหนังสือ Business Model Generation WORKBOOK โดย อิมะสึ มิกิ เนื้อหาหลักในบทความนี้ประกอบไปด้วย เราต้องรู้จักคิดว่าสินค้า-บริการของเรามีคุณค่าอะไรที่ลูกค้าต้องการบ้าง ไม่อย่างนั้นก็ยากที่จะสู้กับตลาดโลกได้ ขอให้ลองใช้ canvas เป็นตัวช่วยในการคิดแบบนักออกแบบดูนะครับ อีฟ พินเญอร์ (Yves Pigneur) ศาสตราจารย์ประจำมหาวิทยาลัยโลซานน์ ผู้พัฒนา Business Model Canvas “ลองทำไปพร้อมกัน” เรียนรู้หลักการเขียน Business Model Canvas Business Model Canvas จะมีเทมเพลต canvas ที่ประกอบด้วยช่องขนาดต่าง ๆ 9 ช่อง แต่ละช่องมีตัวอักษรกำกับว่าเกี่ยวกับเรื่องอะไร หากในตอนที่คุณกำลังประชุมวางแผนโครงการ คุณสามารถใช้เทมเพลตนี้ให้การให้ทุกคนระดมความคิด แลกเปลี่ยนความคิดเห็น และหารือกันในแต่ละประเด็นเพื่อได้ข้อสรุป [1] กลุ่มลูกค้า (Customer Segment) กรอกข้อมูลลูกค้าทั้งหมดของธุรกิจของคุณ แล้วแยกลูกค้าออกเป็นกลุ่มตามความเหมาะสม เช่น กลุ่มลูกค้าที่เป็นรายได้หลักของธุรกิจ กลุ่มลูกค้าที่ต้องการบริการที่แตกต่างออกไป กลุ่มลูกค้าที่ต้องเข้าถึงด้วยวิธีการใหม่ เป็นต้นๆ [2] การเสนอคุณค่า (Value Propositions) คุณควรเริ่มต้นด้วยการทำความเข้าใจและคิดในมุมมองของลูกค้าว่าสายตาของลูกค้า คุณค่าที่ธุรกิจของคุณนำเสนอแก่เขาคืออะไร และทำไมลูกค้าจึงต้องเลือกคุณ เช่น ธุรกิจของคุณช่วยแก้ปัญหาให้ลูกค้าได้ ทำให้ลูกค้ามีความสุขและพึงพอใจ ให้คุณพยายามจับจุดความต้องการของลูกค้าของธุรกิจของคุณให้ได้ และตัดสินใจสร้างคุณค่าใหม่ ๆ ขึ้นมา [3] ช่องทาง (Channels) ลองคิดดูว่ามีช่องทางหรือวิธีการใดบ้างที่ช่วยให้คุณสามารถกระจายข้อมูลไปยังลูกค้าได้ โดยอาจนำแนวคิดทางการตลาดมาช่วยให้เห็นภาพชัดเจนขึ้น เช่น ธุรกิจของคุณใช้การยิง Ads ผ่าน facebook…

Read More

ดาเมจรุนแรงมากสำหรับกระแส Sustainability รณรงค์ให้คนหันมาดูแลสิ่งแวดล้อมกันมากขึ้น กระแสพุ่งตรงแรงที่ตั้งแต่ระดับตัวบุคคล ครอบครัว คนรักสุขภาพมากขึ้นและก็รักษ์โลกไปด้วย ไปจนถึงระดับอุตสาหกรรมขนาดเล็ก-ใหญ่ บริษัทแบรนด์ใหญ่ ๆ รีแบรนด์ตัวเองให้เป็นสาวก Eco Friendly ออกแคมเปญโปรโมท Sustainability มากมาย ตลอดจนการลงทุนาสร้างโปรเจคอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมที่ไม่แสวงหาผลกำไร และแน่นอนว่ามันคีพคูลเข้ากับเทรนด์ Eco Friendly ในเจเนอเรชั่นนี้มาก ยุคดิจิทัลคุณสามารถช่วยโลกนี้ได้ด้วยเทคโนโลยี และแม้ว่าเทคโนโลยีจะเป็นส่วนนึงที่ทำลายสิ่งแวดล้อม แต่วันนี้เทคโนโลยีสามารถช่วยเหลือสิ่งแวดล้อมได้เช่นกัน เทคโนโลยีนี้ก็คือเหล่าบรรดาแอปพลิเคชันต่าง ๆ ซึ่งล้วนถูกสร้างขึ้นจากผู้พัฒนาที่มีแพสชั่นในการช่วยเหลือโลกทั้งสิ้น ตามไปอ่านกัน ! เราหยิบแต่แอพฮิต ๆ มาให้คุณทำความรู้จัก.. Geco Air แอพ Sustainability สัญชาติฝรั่งเศสตัวจริงเสียงจริงด้านพลังงานและสิ่งแวดล้อม เพราะพัฒนาโดยสถาบันปิโตรเลียมแห่งฝรั่งเศส (French Institute of Petroleum หรือเป็นที่รู้จักกันในชื่อ IFP) แอพนี้เปรียบได้กับเพื่อนแท้รักษ์โลกคู่กายของคุณ User Interface มินิมอลทันสมัย User Experience ทำได้ว้าวตามมาตรฐานและเข้าใจง่าย คุณจะได้รับบทบาทผู้อนุรักษ์สิ่งแวดล้อมผ่านทริปการเดินทาง ฟีเจอร์ที่โดดเด่นของเจ้าแอพ Geco Air นี้คือจะอยู่ข้างกายคุณไปทุกทริป โดยเน้นเรื่องการลดมลพิษทางอากาศ (Air pollution) และแน่นอน.. outcome ที่ได้คือแอพจะนำข้อมูลไปคำนวณโดยประมาณว่าปริมาณมลพิษทางอากาศที่เกิดจากทริปของคุณเป็นเท่าไหร่ อย่างไร พร้อมนำเสนอวิธีการที่จะช่วยปรับปรุงให้ทริปของคุณลดมลพิษเหล่านั้นลงได้ ครบเครื่องเรื่อง Eco Friendly Trips ในแอพเดียว ถ้าคุณอยากลองใช้ สามารถดาวน์โหลดและติดตั้งได้เลยที่.. Download for iOS Download for Android Ecosia Simple but true ! เหมาะอย่างยิ่งกับวัยรุ่นไซเบอร์ที่หันมารักษ์โลก สำหรับแอปพลิเคชันแนวเสิร์ชเอนจิ้นตัวนี้ โปรดิวซ์โดย คริสเตียน โครลล์ ชาวเยอรมนี ก่อนอื่นต้องบอกก่อนว่าโปรเจค Ecosia ถือเป็น “แอปพลิเคชันที่ไม่หวังผลกำไร” และบริจาครายได้ส่วนหนึ่งให้แก่องค์การอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมที่มีเป้าหมายหลักเพื่อส่งเสริมกิจกรรมด้านการปลูกป่า เและลดปัญหาด้านการเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศ (Climate change) หมายความว่าแค่คุณดาวน์โหลดแอพนี้มาใช้ คุณก็ไม่ตกเทรนด์ Eco Friendly แล้ว..…

Read More