*Trendy Now
ชั่วโมงนี้ไม่มีใครกล้าปฏิเสธความร้อนแรงของ House of the Dragon ซีรีส์ยอดนิยมส่งท้ายปี ดีไม่แพ้ซีรีส์ในสตอรี่ไลน์เดียวกันอย่าง Game of Thrones และเชื่อไหมว่า.. เพียงแค่ซีซันที่หนึ่งก็สามารถโกยสกอร์จากบ้าน imdb ไปถึง 8.6/10 และจาก Rotten Tomatoes 86% หากคุณเป็นคนนึงที่ได้ดูซีรีส์เรื่องนี้แล้ว จะเห็นว่าตัวละครใน House of the Dragon มีความโดดเด่นและบุคลิกลักษณะที่แตกต่างกันอย่างน่าสนใจ ความรู้สึกนึกคิดและการกระทำของตัวละครนึงมักพาคุณไปเจอประเด็นต่าง ๆ ที่น่าตื่นเต้น ซับซ้อนแต่ก็สอดประสานกันได้อย่างสนุก…
*รักโลก รักสุขภาพ
ดาเมจรุนแรงมากสำหรับกระแส Sustainability รณรงค์ให้คนหันมาดูแลสิ่งแวดล้อมกันมากขึ้น กระแสพุ่งตรงแรงที่ตั้งแต่ระดับตัวบุคคล ครอบครัว คนรักสุขภาพมากขึ้นและก็รักษ์โลกไปด้วย ไปจนถึงระดับอุตสาหกรรมขนาดเล็ก-ใหญ่ บริษัทแบรนด์ใหญ่ ๆ รีแบรนด์ตัวเองให้เป็นสาวก Eco Friendly ออกแคมเปญโปรโมท Sustainability มากมาย…
เช็คความเสี่ยงก่อนจะสาย.. รู้ก่อนไม่มีคำว่า ธุรกิจเจ๊ง
Jump Your Day ! เมนูอาหารเช้า ง่าย ๆ ลุยงานได้ทั้งวัน
การเรียนภาษาใครว่าต้องจริงจังเคร่งเครียดเสมอไป วันนี้เราได้รวบรวมแอปพลิเคชั่นเรียนภาษาต่างประเทศหรือ แอปเรียนภาษา ยอดนิยม ที่มีคะแนนรีวิวสูง ๆ ทั้งนั้น ใครหลายคนต่างบอกเป็นเสียงเดียวกันว่า “ได้ผลจริง” และนอกจากเรียนภาษาที่สองหรือสามจะเป็นการพัฒนาตนเอง เพิ่มสกิลและศักยภาพในการทำงานแล้ว ขอบอกเลยว่าการเลือกเรียนภาษาผ่านแอปพลิเคชั่นแบบออนไลน์นั้น สะดวก ประหยัดค่าเดินทาง และยังแฝงไปด้วยความสนุกเพลิดเพลิน อีกทั้งยังช่วยสร้างการจดจำได้ดีกว่าบทเรียนเล่มหนา ๆ ที่ต้องนั่งท่องจำแต่ไม่เคยได้ออกเสียงหรือเขียนจริง ซึ่งแอปเหล่านี้ถือว่าเป็นตัวช่วยสำคัญที่ทำให้ทักษะในการเรียนพัฒนาได้มากยิ่งขึ้นอีกด้วย 7 แอปเรียนภาษา…
กล้าพูดได้อย่างเต็มปากว่าในทุกวินาทีนี้ไม่มีใครอีกแล้วที่จะไม่รู้จักปัญญาประดิษฐ์ หรือ เอไอ เทคโนโลยีเปลี่ยนโลกที่มีการพัฒนาเติบโตอย่างก้าวกระโดด จนกลายเป็นสิ่งมหัศจรรย์ประจำปี 2023 นี้ อย่างเจ้า “ChatGPT” ปัญญาประดิษฐ์ เอไอสมองเพชร ตัวช่วยชั้นดีที่เข้ามาสร้างความฮือฮา สร้างความตื่นตัวให้กับทุกวงการ รวมถึงบางส่วนงานที่ยกเอาการใช้ ChatGPT เข้ามาปฏิบัติหน้าที่แทนคนจริง ๆ บ้างแล้ว ถึงจะอย่างนั้น.. ก็อย่าลืมว่ามนุษย์อย่างเราก็คือผู้สร้างเจ้าสิ่งประดิษฐ์นี้ขึ้นมา แทนที่เราจะไปมัวนั่งกลัวว่าปัญญาประดิษฐ์เหล่านี้จะเข้ามา Disrupt เรา จะดีกว่าไหม ??? ถ้าหากเราพลิกสถานการณ์จากผู้ตามเป็นผู้ควบคุมแทน…
“Good health is true wealth” สุขภาพดีคือความมั่งคั่งที่แท้จริง buzzword คุ้นหูนี้ไม่ได้กล่าวเกินจริงแต่อย่างใด เมื่อเราทุกคนต่างรู้ดีว่าโลกของเราในทุกวันนี้ได้รับผลร้ายทั้งทางตรงและทางอ้อมจากอุตสาหกรรม ภาวะเรือนกระจก การตัดไม้ทำลายป่าของมนุษย์ ส่งผลให้สิ่งมีเจือปนในอากาศ สารเคมีในอาหาร นำพามาซึ่งเชื้อโรค แบคทีเรีย ไวรัส และโรคภัยไข้เจ็บสายพันธุ์ใหม่ ๆ เกิดขึ้นอยู่เสมอ และเริ่มมีกลุ่มคนที่ตระหนักถึงภัยคุกคามที่มองไม่เห็นนี้เพิ่มขึ้นเรื่อย…
Athena new release
ถอดบทเรียน “ธุรกิจเจ๊ง” เช็คความเสี่ยงว่าธุรกิจคุณเข้าขั้นวิกฤตแล้วหรือยัง ? ปกติแล้วบทความส่วนใหญ่จะให้หนทางทำอย่างไรก็ได้ให้ธุรกิจประสบความสำเร็จ พร้อมแนะนำเคล็ดลับต่าง ๆ มากมาย แต่ถ้าหากคุณกำลังเริ่มต้นทำธุรกิจหรือทำธุรกิจแล้วกำลังประสบกับความเสี่ยงในการทำให้ ธุรกิจเจ๊ง…
คอร์สอบรมนี้สอนอะไร ? Convincing จิตวิทยาและวาทศิลป์ในการโน้มน้าวใจ “เคล็ดลับ! การโน้มน้าวใจคนให้สำเร็จ ด้วยเทคนิคเชิงจิตวิทยาและศิลปะการพูด”หลักการและเหตุผลการดำเนินธุรกิจในปัจจุบันหลากหลายองค์กรต่างเห็นความสำคัญถึงการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์”บุคลากร”ทางด้านทัศนคติกระบวนการความคิดให้เกิดความสุขในการทำงาน องค์กรจึงต้องนำศาสตร์และศิลป์ทางจิตวิทยามาประยุกต์ใช้ในการวางแผน บริหารจัดการ การจูงใจ การเจรจาต่อรอง…
คอร์สอบรมนี้สอนอะไร ? หลักสูตร Generative AI for Productivity เรียนออนไลน์ผ่าน Zoom Meeting…
เปิดรับสมัครแล้ว คอร์สเรียนออนไลน์ “ก้าวแรกสู่ การพูดในที่สาธารณะ” คอร์สเรียนทักษะการพูดในที่สาธารณะที่โฟกัสตรงจุด ทำให้คุณพัฒนาทักษะการพูดเป็นเร็วขึ้น SPEAK SPARK ได้กลั่นกรอง “ศาสตร์และศิลป์”…
คอร์สอบรมนี้สอนอะไร ? OKRs & Performance Management for Supervisor หลักสูตรฝึกอบรมออนไลน์ OKRs…
คอร์สอบรมนี้สอนอะไร ? 7 Steps to Success 7 ทักษะสู่การเป็นนักขายมือทอง “ขายอย่างไร? ให้ตอบโจทย์ตรงใจลูกค้า ได้ทั้งยอดขายและความสัมพันธ์”…
คอร์สอบรมนี้สอนอะไร ? หลักสูตรวุฒิบัตร การบริหารความเสี่ยงองค์กร รุ่นที่ 24 (Risk Management รุ่นที่ 24) หลักการและเหตุผล…
คอร์สอบรมนี้สอนอะไร ? Marketing Analysis in Action หลักสูตรฝึกอบรมออนไลน์ การวิเคราะห์ทางการตลาด เรียนออนไลน์ผ่าน Zoom Meeting…
คอร์สอบรมนี้สอนอะไร ? การกำหนดเป้าหมายและตัวชี้วัดผลงานขององค์กรเพื่อให้ได้งานเชิงพัฒนามากขึ้น หลายองค์กรได้เลือกทำการปรับปรุงแนวทางการกำหนดตัวชี้วัดผลงานเช่น KPIs โดยเปลี่ยนไปเป็นการตั้งเป้าหมายในเชิงพัฒนา รวมทั้งการกำหนดตัวชี้วัดผลงานแบบที่มุ่งเหตุที่ทำให้เกิดผล และผลลัพธ์ปลายทางที่ต้องการ มากกว่าที่จะตั้งตัวชี้วัดผลงานแบบงานประจำ และตัวชี้วัดผลงานที่มุ่งวัดผลเบื้องต้นเท่านั้น…
คอร์สอบรมนี้สอนอะไร ? ทําความรู้จักกับไคเซ็น (KAIZEN) เครื่องมือที่ช่วยในการทําไคเซ็นในสํานักงาน หมวดหมู่ งานบุคคล HR การทำงาน…
ไม่ตกเทรนด์ Eco Friendly รักษ์โลกด้วยแอปพลิเคชัน Sustainability
ดาเมจรุนแรงมากสำหรับกระแส Sustainability รณรงค์ให้คนหันมาดูแลสิ่งแวดล้อมกันมากขึ้น กระแสพุ่งตรงแรงที่ตั้งแต่ระดับตัวบุคคล ครอบครัว คนรักสุขภาพมากขึ้นและก็รักษ์โลกไปด้วย ไปจนถึงระดับอุตสาหกรรมขนาดเล็ก-ใหญ่ บริษัทแบรนด์ใหญ่ ๆ รีแบรนด์ตัวเองให้เป็นสาวก Eco Friendly ออกแคมเปญโปรโมท Sustainability มากมาย ตลอดจนการลงทุนาสร้างโปรเจคอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมที่ไม่แสวงหาผลกำไร และแน่นอนว่ามันคีพคูลเข้ากับเทรนด์ Eco Friendly ในเจเนอเรชั่นนี้มาก…
หากคุณเป็นคนนึงที่เพิ่งเรียนจบกำลังจะเริ่มทำงาน หรือเคยทำงานมาแล้วแต่กำลังจะย้ายไปที่ทำงานใหม่ เชื่อว่าคุณต้องมีความประหม่ากับเส้นทางเดินใหม่ของชีวิตนี้อยู่บ้าง ข้อคิดที่น่าสนใจคือ.. คุณที่ได้สวมหมวกพนักงานใหม่ต้องทำอย่างไรที่จะสามารถสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับ “เพื่อนร่วมงาน” คุณควรจะวางตัวแบบไหนให้เหมาะสมกับสังคมและสภาพแวดล้อมใหม่ ๆ เพราะต่อให้งานที่ทำหรือบริษัทจะดีแค่ไหน แต่การสร้างสัมพันธ์กับเพื่อนร่วมงานหรือคอนเนคชั่นก็ถือเป็นสิ่งสำคัญไม่แพ้กัน หากคุณเจอเพื่อนร่วมงานที่ดี พวกเขาก็พร้อมช่วยเหลือ พร้อมผลักดัน หรืออย่างแย่คือต่อให้เขาเหล่านั้นไม่ค่อยโอเคสำหรับคุณ แต่หากคุณอยู่เป็นหรือวางตัวได้อย่างเหมาะสม ก็จะทำให้บรรยากาศการทำงานเป็นไปด้วยดีได้เช่นกัน วิธีง่าย ๆ สร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับ “เพื่อนร่วมงาน” กรณีที่คุณเป็น New Joiner ของบริษัทหรือเพิ่งเข้ามาทำงาน ดังนั้นเนื้อหาส่วนนี้จะแนะนำวิธีการสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับเพื่อนร่วมงานในที่ทำงานใหม่ ซึ่งเป็นอะไรที่สำคัญเป็นอย่างมาก เพราะ First impression จะเป็นสิ่งที่คนเราจดจำได้ดีที่สุดเมื่อได้รู้จักใครบางคน และอาจจะพัฒนาเป็นความสัมพันธ์ในทิศทางที่ดี และอาจเสริมให้หน้าที่การงานให้เป็นไปในทิศทางที่ดีด้วยเช่นกัน ขอให้คุณเปิดใจก่อนศึกษาวิธีดังต่อไปนี้ 1. ทักทายและตั้งคำถามที่รีแล็กซ์ สำหรับใครที่เพิ่งเข้ามาทำงานในวันแรก คุณควรทักทายทุกคนที่จำเป็นต้องทำงานด้วย เราขอเน้นว่า “คนที่ต้องทำงานด้วย” เราไม่ได้อยากให้คุณทักทายใครก็ได้ไปเรื่อย เพราะมันจะดูแปลกประหลาดในสายตาคนอื่นที่มองคุณในฐานะที่เป็นพนักงานน้องใหม่ และอยากให้คุณเน้นเรื่องของการแสดงความจริงใจและรอยยิ้ม นอกจากนี้.. หากสามารถทำได้ก็ขอแนะนำให้ถามเกี่ยวกับการทำงานทั่ว ๆ ไปกับคู่สนทนา ไม่ต้องลงรายละเอียดมากนัก และคุณก็ควรหาจังหวะบอกข้อมูลของตัวเองโดยไม่ต้องลงรายละเอียดมากด้วยเช่นกัน จากนั้นคุณอาจจะลองเริ่มบทสนทนาเรื่องรีแล็กซ์ทั่ว ๆ ไป อย่างเช่นว่า “ปกติกินข้าวกันที่ไหน” “การเดินทางมาทำงานเป็นอย่างไร” สิ่งเหล่านี้คือเบื้องต้นที่ควรจะทำในการสร้างความสัมพันธ์ ในตอนที่เพิ่งเข้าทำงานวันแรก ๆ กับเพื่อนร่วมงาน 2. เสนอความช่วยเหลืออย่างพอดี การให้ความช่วยเหลือเพื่อนร่วมงาน นับเป็นการสร้างความสัมพันธ์ที่ดี แต่อย่าลืมว่าคุณจะต้องทำงานของตัวเองให้เสร็จก่อน และถ้ามีเวลาเหลือก็สามารถเสนอตัวเข้าไปช่วยได้ หรือถ้าหากมีใครต้องการขอความช่วยเหลือ และถ้าคุณสามารถช่วยเหลือได้โดยที่ไม่ทำให้งานของตัวเองเสีย ก็ให้รีบตอบรับในทันที เมื่อรับปากแล้วคุณควรพยายามช่วยเหลืออย่างเต็มที่ ในจุดนี้จะเปิดโอกาสให้คุณได้รู้จักเพื่อนร่วมงานดีมากยิ่งขึ้น แต่สำหรับข้อนี้.. อยากให้ข้อคิดกับคุณว่า นิสัยใจคอของคนเรานั้นมากมายหลากหลาย หากคุณพบว่าเพื่อนร่วมงานคนนั้นของคุณร้องขอความช่วยเหลือบ่อย ๆ ในชนิดที่คุณเริ่มเอะใจแล้วว่าคือการเอาเปรียบ ให้คุณรีบถอยออกมา และปฏิเสธอย่างมีมารยาท 3. Team is…
การเรียนภาษาใครว่าต้องจริงจังเคร่งเครียดเสมอไป วันนี้เราได้รวบรวมแอปพลิเคชั่นเรียนภาษาต่างประเทศหรือ แอปเรียนภาษา ยอดนิยม ที่มีคะแนนรีวิวสูง ๆ ทั้งนั้น ใครหลายคนต่างบอกเป็นเสียงเดียวกันว่า “ได้ผลจริง” และนอกจากเรียนภาษาที่สองหรือสามจะเป็นการพัฒนาตนเอง เพิ่มสกิลและศักยภาพในการทำงานแล้ว ขอบอกเลยว่าการเลือกเรียนภาษาผ่านแอปพลิเคชั่นแบบออนไลน์นั้น สะดวก ประหยัดค่าเดินทาง และยังแฝงไปด้วยความสนุกเพลิดเพลิน อีกทั้งยังช่วยสร้างการจดจำได้ดีกว่าบทเรียนเล่มหนา ๆ ที่ต้องนั่งท่องจำแต่ไม่เคยได้ออกเสียงหรือเขียนจริง ซึ่งแอปเหล่านี้ถือว่าเป็นตัวช่วยสำคัญที่ทำให้ทักษะในการเรียนพัฒนาได้มากยิ่งขึ้นอีกด้วย 7 แอปเรียนภาษา ทั้งสนุกและได้ความรู้ แอปเรียนภาษา หรือแอปพลิเคชั่นเรียนภาษาต่างประเทศที่เราคัดมาให้วันนี้ถือเป็นตัวช่วยดี ๆ ที่จะมาช่วยเสริมสร้างทักษะทั้งการฟัง พูด อ่าน เขียน และแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมกับเจ้าของภาษาได้จริงผ่านการแชร์ในคอมมูนิตี้ และในรูปแบบอื่น ๆ ที่น่าสนใจอีกเพียบ ! จะมีอะไรบ้างมาดูกันเลย 1. Duolingo คงไม่มีใครไม่รู้จักแอปเรียนรู้ภาษายอดนิยมอย่าง Duolingo ที่ตัวแอปจะมีความเหมาะกับผู้ที่ต้องการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศตั้งแต่ในระดับพื้นฐาน เพราะภายในตัวแอปนอกจากสาระความรู้เกี่ยวกับภาษาต่างประเทศแล้วยังได้ทั้งความสนุกจากภารกิจและกิจกรรมส่งเสริมการใช้ภาษาในรูปแบบของเกมให้ผู้ใช้งานได้ลองใช้ เช่น เกมการตอบคำถาม เกมฝึกการฟังเสียง หรือฝึกแปลภาษา ที่จะช่วยพัฒนาและกระตุ้นสมองให้เกิดการเรียนรู้และการจดจำที่ไวกว่าการเรียนแบบท่องจำทั่วไป ที่สำคัญยังมีการแจ้งเตือนให้เรามาเรียนทุกวันกันอีกด้วย 2. Memrise อีกหนึ่ง แอปเรียนภาษา ยอดฮิตที่เน้นการเรียนรู้ภาษาในรูปแบบการจดจำคำศัพท์และไวยากรณ์ภาษา ผ่านเกมจับคู่ศัพท์และเกมช่วยเสริมความจำอื่น ๆ เพื่อให้ผู้เรียนสามารถนำศัพท์ไปใช้งานได้จริงในระยะยาว รวมถึงตัวแอปมีการผสมผสานเทคโนโลยี AI เข้ามาช่วยพัฒนาการเรียนรู้ ให้ผู้ใช้งานสามารถฝึกฝนภาษาอังกฤษกับติวเตอร์-เอไอ (Membot) แบบตัวต่อตัวอีกด้วย ถือว่าเป็นนวัตกรรมล้ำๆ ที่ทำให้คุณสนุกสนานเพลิดเพลินได้อย่างเต็มที่ 3. CAKE แอปพลิเคชั่นเรียนภาษาภาษาจากวิดีโอที่มีชื่อน่ารัก ๆ อย่าง CAKE เป็นอีกหนึ่งแอปที่ช่วยฝึกด้านสำนวนภาษาอังกฤษและเกาหลีผ่านบทเรียนที่เป็นระบบมินิเกม ทำให้เกิดการเรียนรู้ จดจำ พร้อมกับความเพลินเพลินสนุกสนาน นอกจากนั้นในแอปยังมี Lesson ให้เลือกเรียนตามหัวข้อต่าง ๆ กับเจ้าของภาษาและทดสอบความสามารถผ่านควิซภายในแอป เรียกได้ว่าครบ จบ ที่แอปเดียวเลย…
เพื่อน ๆ รู้หรือไม่ ข้อมูลจากกระทรวงสาธารณสุขบอกไว้ว่าประชากรในบ้านเรา กลุ่มคนไทยวัยสร้างตัวที่เฉลี่ยอายุ 34 ถึง 35 ปีขึ้นไป ประสบปัญหาโรคเมตาบอลิกซินโดรมมากขึ้นทุกปี ๆ หรือที่พวกเราเรียกกันติดปากว่า “อ้วนลงพุง” ฟังดูเผิน ๆ อาจคิดว่า อ้วนลงพุง ก็แค่พุงใหญ่ขึ้น ร่างกายเปลี่ยนไปแค่นั้นหรือเปล่า ? คำตอบคือ เปล่าเลย ! และไม่ใกล้เคียงด้วยซ้ำ การอ้วนลงพุงเป็นสัญญาณเริ่มต้นของโรคเบาหวาน แถมโปรโมชั่นโรคหลอดเลือดหัวใจ โรคหลอดเลือดสมอง หรือ สโตรก ซื้อหนึ่งแถมสอง ไม่ได้ขู่ เราเป็นห่วงทุกคน ถ้าไม่ดูแลสุขภาพและป้องกันโรคอ้วนลงพุงเสียแต่ตอนนี้ อาจบานปลายในอนาคต สังเกตตัวเองกันก่อน.. อ้วนลงพุง หรือยัง ?! โรคเมตาบอลิกซินโดรมหรืออ้วนลงพุง จะมีอาการร่วมกัน 3 จาก 5 ในรายการดังต่อไปนี้ อ้วนเกิน สังเกตได้ในผู้ชายที่มีขนาดรอบเอวมากกว่า 36 นิ้ว และ 32 นิ้วสำหรับหญิงความดันโลหิตสูง ภาวะปกติต้องวัดได้สูงกว่า 130/85 mm Hg หรือกินยาลดความดันฯ อยู่น้ำตาลในเลือดสูง วัดได้ตั้งแต่ 100-110 mg/dl ขึ้นไป ซึ่งส่อได้ว่าเป็นภาวะต้านอินซูลินไตรกลีเซอไรด์สูง ตั้งแต่ 150 mg/dl ขึ้นไปโคเลสเตอรอลดี เอชดีแอลต่ำ น้อยกว่า 40 mg/dl ในผู้ชาย และ ผู้หญิงอยู่ที่ 50 mg/dl ข้อ (1) สำคัญมาก และขอเน้นย้ำให้เพื่อน ๆ ทดสอบข้อนี้เป็นอย่างแรก…
Multitasking และ Prioritizing skills จำเป็นมากจริง ๆ กับการทำงานในยุคสมัยนี้เพื่อให้ก่อเกิด Productivity ไม่ว่าจะสายอาชีพใด ยิ่งเมื่อคุณโตขึ้น ความรับผิดชอบมากขึ้น คุณต้องรับผิดชอบทั้งงานหลัก (Main goal) ควบคู่ไปกับงานรอง (Sub goal) ในบางสายอาชีพยังอาจถูกงานประเภท Operation Supports แทรกเข้ามาอย่างเร่งด่วนเป็นประจำ หรือหากคุณเป็น Specialist จ๋า แน่นอนว่าคุณต้องมีหน้าที่ให้คำปรึกษา คอยรับโทรศัพท์ ตอบ LINE หรืออีเมลจากผู้ที่ต้องการความช่วยเหลือจากคุณอยู่เสมออย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ กิจกรรมหรือ tasks ทั้งหมดที่เกิดขึ้นในแต่ละวัน ถ้าหากว่าคุณไม่มีพาร์ทเนอร์ประจำตัวคอยช่วยสะกิดเตือน นั่นหมายถึงคุณก็คงต้องจำอะไรเองทั้งหมดคนเดียว หรือไม่มีแพลนเนอร์มาช่วยจัดการและช่วยลำดับงาน คุณก็คงต้องใช้วิธีการจดโน๊ตแบบง่าย ๆ ในสมุดหรือ post-it ซึ่งถ้ามีงานสองงานก็พอไหว แต่หากมีเป็นสิบ ๆ tasks ต่อวัน แค่คิดตามก็ปวดหัวแล้ว ! ปัญหานี้สำหรับในทุกวันนี้แล้ว มันก็ไม่ได้แก้ไขยากเท่าไหร่ เพียงคุณลองมองหาเทคโนโลยี และใช้แอปพลิเคชั่นจำพวกแอพจัดตารางงาน เลือกแอพที่ตรงกับรูปแบบอาชีพและสไตล์การทำงานของตัวคุณเอง รับรองเลยว่าเจ้าแอพเหล่านี้มันช่วยเป็นทั้งแพลนเนอร์และพาร์ทเนอร์ให้คุณได้อย่างดี การันตี Productivity ของคุณจะต้องเพิ่มมากขึ้นได้อย่างมีนัยสำคัญ 7 แอพจัดตารางงาน เป็นทั้งพาร์ทเนอร์และแพลนเนอร์ เลือกใช้ตามสไตล์ การจะเลือกแอพจัดตารางงาน เพื่อเป็นพาร์ทเนอร์ช่วยเตือนความจำ หรือเป็นแพลนเนอร์ช่วยจัดการและช่วยลำดับงานให้ตัวคุณเองนั้นเป็นเรื่องสำคัญ โดยคุณควรจะต้องเลือกให้ตรงกับรูปแบบอาชีพและสไตล์การทำงานของตัวคุณเอง แอพไหนที่ User Interface ใช้ง่ายสำหรับคุณ รองรับปริมาณงานและรูปแบบงานที่ตรงกับข้อมูลงานของคุณ และที่สำคัญที่สุดคือแอพที่ใช้นั้นต้องมีฟีเจอร์หลักที่จะช่วยแก้ปัญหาให้กับคุณได้ เพราะเมื่อใช้เทคโนโลยีเหล่านี้มาช่วยแล้ว Productivity ของคุณต้องเพิ่มมากขึ้น ดังนั้นคงไม่มีอะไรจะดีไปกว่าการที่คุณต้องลองศึกษาจากทั้ง 7 แอพผู้ช่วยในการจัดตารางงานยอดฮิตเหล่านี้ ที่เราสรุปมาให้หรือลองไปดาวน์โหลดมาใช้เสียก่อน 1. Planner Pro แอพจัดตารางงาน…
ในปัจจุบันผู้คนมักมุ่งหน้าตั้งใจเรียน มุ่งมั่นตั้งใจทำงานเพื่ออนาคตที่ดี แน่นอนว่าสิ่งเหล่านี้ต้องแลกอะไรบางอย่างกลับมา ไม่ว่าสุขภาพทางด้านร่างกายที่อาจเป็นออฟฟิศซินโครม มีปัญหาเรื่องสายตา ในขณะเดียวกันสุขภาพใจอาจมีปัญหาในเรื่องของความเครียด อาการ Burnout Burndown รวมไปถึงความวิตกกังวลจนนำไปสู่การเป็นโรคซึมเศร้าได้ ดังนั้นการโฟกัสหรือมีแพสชั่นกับการหา งานอดิเรก ที่เราสนใจ ก็เป็นอีกวิธีที่ดีและใครหลายคนกำลังทำกัน เพื่อแก้ปัญหาสุขภาพกายและใจ นี่จึงเป็นเรื่องที่สำคัญเป็นอย่างมาก และถ้าหากเป็น งานอดิเรก เป็นสิ่งที่เราชอบอยู่แล้วด้วยนั้น ก็ยิ่งเพิ่มความรู้สึกอิ่มเอมใจได้อย่างแน่นอน เพิ่มพลังบวกเหลือ ๆ ให้กับร่างกายได้เป็นอย่างดี และในลิสต์ไอเดียแนะนำงานอดิเรกที่หาทำได้ง่ายในยุคนี้ มีอะไรบ้าง ตรงกับใจคุณบ้างไหมเอ่ย.. ? แนะนำ 6 งานอดิเรก หาทำได้ง่าย ส่งเสริมสุขภาพใจที่ดี เพิ่มคุณค่าให้กับตัวเอง การทำ งานอดิเรก จะทำจากสิ่งที่ตัวเองชอบอยู่แล้วก็ได้ หรือถ้าหากใครอยากหาอะไรใหม่ๆ ก็ได้เช่นเดียวกัน แต่การทำงานอดิเรกขอแนะนำว่ามีการกำหนดช่วงเวลาใน 1 สัปดาห์อย่างชัดเจนจะดีกว่า ไม่เช่นนั้นถ้ารอแต่วันว่าง สุดท้ายวันว่างอาจไม่มีอยู่จริงก็ได้ โดยไอเดียที่อยากแนะนำให้ทุกคนได้ทำมีดังต่อไปนี้ 1. วาดรูปและระบายสีเรียนรู้ความรู้สึก การวาดรูปและระบายสีจะทำให้คุณโฟกัสลงไปในกระดาษ อยากจะวาดรูปแบบไหนก็วาด อยากเลือกระบายสีอะไรก็ระบาย เพียงแค่ปล่อยใจไปกับงานศิลปะเหล่านั้น เมื่อวาดผลงานเสร็จคุณจะโล่งใจขึ้นเพราะโฟกัสอยู่กับงาน ในขณะเดียวกันความรู้สึกอัดอั้นก็ออกผ่านภาพวาด ซึ่งงานอดิเรกนี้เป็นที่นิยมเป็นอย่างมาก และมีหลายสตูดิโอเลยทีเดียวที่รับทำคิลปะบำบัดเพื่อเรียนรู้จิตใจของเราได้ดีมากยิ่งขึ้น 2. เขียน Diary แบบ Free writing สำหรับใครที่ชอบการเขียน โดยเฉพาะชาว introvert ขอแนะนำว่าลองหาสมุดเล่มหนึ่งมาทำเป็น Diary แต่ทีนี้ในการเขียนไม่จำเป็นต้องระบุว่าจะเขียนเรื่องอะไร จะใช้ภาษาแบบไหน จะลำดับเรื่องอย่างไร ขอแนะนำให้เขียนแบบ Free writing ที่ปล่อยมือให้เขียนตามความคิดที่แล่นอยู่ขณะนั้น เขียนไปเรื่อยๆ ไม่หยุด ที่ต่อให้แม้ในหัวจะคิดว่า “คิดไม่ออกๆ” ก็ให้เขียนแบบนั้นไปเรื่อยๆ ซึ่งสิ่งนี้จะถือว่าเป็นการระบายความคิดในหัวและความรู้สึกที่ขุ่นข้องในใจ และหากมาอ่านทวนคุณจะรู้เลยว่ากำลังเครียดหรือคิดวนกับเรื่องอะไรอยู่ 3.…