*Trendy Now

ชั่วโมงนี้ไม่มีใครกล้าปฏิเสธความร้อนแรงของ House of the Dragon ซีรีส์ยอดนิยมส่งท้ายปี ดีไม่แพ้ซีรีส์ในสตอรี่ไลน์เดียวกันอย่าง Game of Thrones และเชื่อไหมว่า.. เพียงแค่ซีซันที่หนึ่งก็สามารถโกยสกอร์จากบ้าน imdb ไปถึง 8.6/10 และจาก Rotten Tomatoes 86% หากคุณเป็นคนนึงที่ได้ดูซีรีส์เรื่องนี้แล้ว จะเห็นว่าตัวละครใน House of the Dragon มีความโดดเด่นและบุคลิกลักษณะที่แตกต่างกันอย่างน่าสนใจ ความรู้สึกนึกคิดและการกระทำของตัวละครนึงมักพาคุณไปเจอประเด็นต่าง ๆ ที่น่าตื่นเต้น ซับซ้อนแต่ก็สอดประสานกันได้อย่างสนุก…

*รักโลก รักสุขภาพ

ดาเมจรุนแรงมากสำหรับกระแส Sustainability รณรงค์ให้คนหันมาดูแลสิ่งแวดล้อมกันมากขึ้น กระแสพุ่งตรงแรงที่ตั้งแต่ระดับตัวบุคคล ครอบครัว คนรักสุขภาพมากขึ้นและก็รักษ์โลกไปด้วย ไปจนถึงระดับอุตสาหกรรมขนาดเล็ก-ใหญ่ บริษัทแบรนด์ใหญ่ ๆ รีแบรนด์ตัวเองให้เป็นสาวก Eco Friendly ออกแคมเปญโปรโมท Sustainability มากมาย…

Business knowledge 77%
Technology 71%
Self development 90%
Potential improvement 86%

Athena new release

ถอดบทเรียน “ธุรกิจเจ๊ง” เช็คความเสี่ยงว่าธุรกิจคุณเข้าขั้นวิกฤตแล้วหรือยัง ? ปกติแล้วบทความส่วนใหญ่จะให้หนทางทำอย่างไรก็ได้ให้ธุรกิจประสบความสำเร็จ พร้อมแนะนำเคล็ดลับต่าง ๆ มากมาย แต่ถ้าหากคุณกำลังเริ่มต้นทำธุรกิจหรือทำธุรกิจแล้วกำลังประสบกับความเสี่ยงในการทำให้ ธุรกิจเจ๊ง…

คอร์สอบรมนี้สอนอะไร ? Convincing จิตวิทยาและวาทศิลป์ในการโน้มน้าวใจ “เคล็ดลับ! การโน้มน้าวใจคนให้สำเร็จ ด้วยเทคนิคเชิงจิตวิทยาและศิลปะการพูด”หลักการและเหตุผลการดำเนินธุรกิจในปัจจุบันหลากหลายองค์กรต่างเห็นความสำคัญถึงการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์”บุคลากร”ทางด้านทัศนคติกระบวนการความคิดให้เกิดความสุขในการทำงาน องค์กรจึงต้องนำศาสตร์และศิลป์ทางจิตวิทยามาประยุกต์ใช้ในการวางแผน บริหารจัดการ การจูงใจ การเจรจาต่อรอง…

คอร์สอบรมนี้สอนอะไร ? หลักสูตร Generative AI for Productivity เรียนออนไลน์ผ่าน Zoom Meeting…

เปิดรับสมัครแล้ว คอร์สเรียนออนไลน์ “ก้าวแรกสู่ การพูดในที่สาธารณะ” คอร์สเรียนทักษะการพูดในที่สาธารณะที่โฟกัสตรงจุด ทำให้คุณพัฒนาทักษะการพูดเป็นเร็วขึ้น SPEAK SPARK ได้กลั่นกรอง “ศาสตร์และศิลป์”…

คอร์สอบรมนี้สอนอะไร ? การกำหนดเป้าหมายและตัวชี้วัดผลงานขององค์กรเพื่อให้ได้งานเชิงพัฒนามากขึ้น หลายองค์กรได้เลือกทำการปรับปรุงแนวทางการกำหนดตัวชี้วัดผลงานเช่น KPIs โดยเปลี่ยนไปเป็นการตั้งเป้าหมายในเชิงพัฒนา รวมทั้งการกำหนดตัวชี้วัดผลงานแบบที่มุ่งเหตุที่ทำให้เกิดผล และผลลัพธ์ปลายทางที่ต้องการ มากกว่าที่จะตั้งตัวชี้วัดผลงานแบบงานประจำ และตัวชี้วัดผลงานที่มุ่งวัดผลเบื้องต้นเท่านั้น…

คอร์สอบรมนี้สอนอะไร ? ทําความรู้จักกับไคเซ็น (KAIZEN) เครื่องมือที่ช่วยในการทําไคเซ็นในสํานักงาน หมวดหมู่ งานบุคคล HR การทำงาน…

ดาเมจรุนแรงมากสำหรับกระแส Sustainability รณรงค์ให้คนหันมาดูแลสิ่งแวดล้อมกันมากขึ้น กระแสพุ่งตรงแรงที่ตั้งแต่ระดับตัวบุคคล ครอบครัว คนรักสุขภาพมากขึ้นและก็รักษ์โลกไปด้วย ไปจนถึงระดับอุตสาหกรรมขนาดเล็ก-ใหญ่ บริษัทแบรนด์ใหญ่ ๆ รีแบรนด์ตัวเองให้เป็นสาวก Eco Friendly ออกแคมเปญโปรโมท Sustainability มากมาย ตลอดจนการลงทุนาสร้างโปรเจคอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมที่ไม่แสวงหาผลกำไร และแน่นอนว่ามันคีพคูลเข้ากับเทรนด์ Eco Friendly ในเจเนอเรชั่นนี้มาก…

“Good health is true wealth” สุขภาพดีคือความมั่งคั่งที่แท้จริง buzzword คุ้นหูนี้ไม่ได้กล่าวเกินจริงแต่อย่างใด เมื่อเราทุกคนต่างรู้ดีว่าโลกของเราในทุกวันนี้ได้รับผลร้ายทั้งทางตรงและทางอ้อมจากอุตสาหกรรม ภาวะเรือนกระจก การตัดไม้ทำลายป่าของมนุษย์ ส่งผลให้สิ่งมีเจือปนในอากาศ สารเคมีในอาหาร นำพามาซึ่งเชื้อโรค แบคทีเรีย ไวรัส และโรคภัยไข้เจ็บสายพันธุ์ใหม่ ๆ เกิดขึ้นอยู่เสมอ และเริ่มมีกลุ่มคนที่ตระหนักถึงภัยคุกคามที่มองไม่เห็นนี้เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ เขาเหล่านั้นต่างให้ความสำคัญกับเรื่องการดูแลสุขภาพ มากขึ้น และยังร่วมรณรงค์ให้ผู้คนตื่นตัวผ่านสื่อฯ หรือแคมเปญต่าง ๆ อยู่เสมอ รวมไปถึงการใช้ แอปดูแลสุขภาพ กันให้มากขึ้นในชีวิตประจำวัน เราทุกคนต่างต้องเผชิญกับสภาพแวดล้อมที่เปลี่ยนแปลงฉับพลันในอนาคตอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ การให้ความสำคัญกับเรื่องนี้จึงสำคัญมาก เริ่มที่ตัวเองเราเองได้ง่าย ๆ โดยต้องหมั่นตรวจเช็กร่างกายตัวเองอยู่เสมอ สำหรับใครที่ไม่ชอบความยุ่งยาก หรือขี้เกียจเดินทางไปตรวจสุขภาพไกลบ้าน เราขอแนะนำ 10 แอปพลิเคชันดูแลสุขภาพของตัวเอง ตัวช่วยสำคัญที่จะยกระดับคุณภาพชีวิตของคุณ ให้ครอบคลุมทั้งร่างกายและจิตใจ สามารถนำไปใช้ได้ในชีวิตประจำวัน ลดการเจ็บป่วยเข้าโรงพยาบาลได้อย่างแน่นอน รวม 10 แอปดูแลสุขภาพ ให้กับตัวเองเป็นประจำทุกวัน สำหรับ แอปดูแลสุขภาพ ทั้ง 10 แอป ที่ได้มีการคัดสรรมานั้น ถือว่ามีความหลากหลายเป็นอย่างมาก คุณไม่จำเป็นต้องโหลดทุกแอป แต่ให้เลือกแอปที่คุณต้องการจะ ดูแลสุขภาพ ร่างกายและจิตใจในด้านไหน แบบใดจะเป็นการดีที่สุด โดยรายละเอียดต่าง ๆ มีดังต่อไปนี้ 1. MyFitnessPal เริ่มกันที่แอปพลิเคชันแรก MyFitnessPal แอปติดตามการรับประทานอาหารในชีวิตประจำวัน มาพร้อมฟังก์ชันการวางแผนออกกำลังกาย ภายในมีข้อมูลอาหารหลากหลาย สามารถสแกนบาร์โค้ดเพื่อตรวจสอบปริมาณแคลอรีอาหารที่ทานได้ เหมาะสำหรับคนรักสุขภาพหรือสาว ๆ ที่ต้องการลดน้ำหนัก และสิ่งนี้เองจะเสริมสร้างสุขภาพที่ดีในระยะยาวได้ 2. Apple Health อีกหนึ่งแอปพลิเคชันติดตามสุขภาพ ตอบโจทย์ผู้ใช้งานอุปกรณ์…

เพื่อน ๆ รู้หรือไม่ ข้อมูลจากกระทรวงสาธารณสุขบอกไว้ว่าประชากรในบ้านเรา กลุ่มคนไทยวัยสร้างตัวที่เฉลี่ยอายุ 34 ถึง 35 ปีขึ้นไป ประสบปัญหาโรคเมตาบอลิกซินโดรมมากขึ้นทุกปี ๆ หรือที่พวกเราเรียกกันติดปากว่า “อ้วนลงพุง” ฟังดูเผิน ๆ อาจคิดว่า อ้วนลงพุง ก็แค่พุงใหญ่ขึ้น ร่างกายเปลี่ยนไปแค่นั้นหรือเปล่า ? คำตอบคือ เปล่าเลย ! และไม่ใกล้เคียงด้วยซ้ำ การอ้วนลงพุงเป็นสัญญาณเริ่มต้นของโรคเบาหวาน แถมโปรโมชั่นโรคหลอดเลือดหัวใจ โรคหลอดเลือดสมอง หรือ สโตรก ซื้อหนึ่งแถมสอง ไม่ได้ขู่ เราเป็นห่วงทุกคน ถ้าไม่ดูแลสุขภาพและป้องกันโรคอ้วนลงพุงเสียแต่ตอนนี้ อาจบานปลายในอนาคต สังเกตตัวเองกันก่อน.. อ้วนลงพุง หรือยัง ?! โรคเมตาบอลิกซินโดรมหรืออ้วนลงพุง จะมีอาการร่วมกัน 3 จาก 5 ในรายการดังต่อไปนี้ อ้วนเกิน สังเกตได้ในผู้ชายที่มีขนาดรอบเอวมากกว่า 36 นิ้ว และ 32 นิ้วสำหรับหญิงความดันโลหิตสูง ภาวะปกติต้องวัดได้สูงกว่า 130/85 mm Hg หรือกินยาลดความดันฯ อยู่น้ำตาลในเลือดสูง วัดได้ตั้งแต่ 100-110 mg/dl ขึ้นไป ซึ่งส่อได้ว่าเป็นภาวะต้านอินซูลินไตรกลีเซอไรด์สูง ตั้งแต่ 150 mg/dl ขึ้นไปโคเลสเตอรอลดี เอชดีแอลต่ำ น้อยกว่า 40 mg/dl ในผู้ชาย และ ผู้หญิงอยู่ที่ 50 mg/dl ข้อ (1) สำคัญมาก และขอเน้นย้ำให้เพื่อน ๆ ทดสอบข้อนี้เป็นอย่างแรก…

หากคุณเป็นคนนึงที่เพิ่งเรียนจบกำลังจะเริ่มทำงาน หรือเคยทำงานมาแล้วแต่กำลังจะย้ายไปที่ทำงานใหม่ เชื่อว่าคุณต้องมีความประหม่ากับเส้นทางเดินใหม่ของชีวิตนี้อยู่บ้าง ข้อคิดที่น่าสนใจคือ.. คุณที่ได้สวมหมวกพนักงานใหม่ต้องทำอย่างไรที่จะสามารถสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับ “เพื่อนร่วมงาน” คุณควรจะวางตัวแบบไหนให้เหมาะสมกับสังคมและสภาพแวดล้อมใหม่ ๆ เพราะต่อให้งานที่ทำหรือบริษัทจะดีแค่ไหน แต่การสร้างสัมพันธ์กับเพื่อนร่วมงานหรือคอนเนคชั่นก็ถือเป็นสิ่งสำคัญไม่แพ้กัน หากคุณเจอเพื่อนร่วมงานที่ดี พวกเขาก็พร้อมช่วยเหลือ พร้อมผลักดัน หรืออย่างแย่คือต่อให้เขาเหล่านั้นไม่ค่อยโอเคสำหรับคุณ แต่หากคุณอยู่เป็นหรือวางตัวได้อย่างเหมาะสม ก็จะทำให้บรรยากาศการทำงานเป็นไปด้วยดีได้เช่นกัน วิธีง่าย ๆ สร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับ “เพื่อนร่วมงาน” กรณีที่คุณเป็น New Joiner ของบริษัทหรือเพิ่งเข้ามาทำงาน ดังนั้นเนื้อหาส่วนนี้จะแนะนำวิธีการสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับเพื่อนร่วมงานในที่ทำงานใหม่ ซึ่งเป็นอะไรที่สำคัญเป็นอย่างมาก เพราะ First impression จะเป็นสิ่งที่คนเราจดจำได้ดีที่สุดเมื่อได้รู้จักใครบางคน และอาจจะพัฒนาเป็นความสัมพันธ์ในทิศทางที่ดี และอาจเสริมให้หน้าที่การงานให้เป็นไปในทิศทางที่ดีด้วยเช่นกัน ขอให้คุณเปิดใจก่อนศึกษาวิธีดังต่อไปนี้ 1. ทักทายและตั้งคำถามที่รีแล็กซ์ สำหรับใครที่เพิ่งเข้ามาทำงานในวันแรก คุณควรทักทายทุกคนที่จำเป็นต้องทำงานด้วย เราขอเน้นว่า “คนที่ต้องทำงานด้วย” เราไม่ได้อยากให้คุณทักทายใครก็ได้ไปเรื่อย เพราะมันจะดูแปลกประหลาดในสายตาคนอื่นที่มองคุณในฐานะที่เป็นพนักงานน้องใหม่ และอยากให้คุณเน้นเรื่องของการแสดงความจริงใจและรอยยิ้ม นอกจากนี้.. หากสามารถทำได้ก็ขอแนะนำให้ถามเกี่ยวกับการทำงานทั่ว ๆ ไปกับคู่สนทนา ไม่ต้องลงรายละเอียดมากนัก และคุณก็ควรหาจังหวะบอกข้อมูลของตัวเองโดยไม่ต้องลงรายละเอียดมากด้วยเช่นกัน จากนั้นคุณอาจจะลองเริ่มบทสนทนาเรื่องรีแล็กซ์ทั่ว ๆ ไป อย่างเช่นว่า “ปกติกินข้าวกันที่ไหน” “การเดินทางมาทำงานเป็นอย่างไร” สิ่งเหล่านี้คือเบื้องต้นที่ควรจะทำในการสร้างความสัมพันธ์ ในตอนที่เพิ่งเข้าทำงานวันแรก ๆ กับเพื่อนร่วมงาน 2. เสนอความช่วยเหลืออย่างพอดี การให้ความช่วยเหลือเพื่อนร่วมงาน นับเป็นการสร้างความสัมพันธ์ที่ดี แต่อย่าลืมว่าคุณจะต้องทำงานของตัวเองให้เสร็จก่อน และถ้ามีเวลาเหลือก็สามารถเสนอตัวเข้าไปช่วยได้ หรือถ้าหากมีใครต้องการขอความช่วยเหลือ และถ้าคุณสามารถช่วยเหลือได้โดยที่ไม่ทำให้งานของตัวเองเสีย ก็ให้รีบตอบรับในทันที เมื่อรับปากแล้วคุณควรพยายามช่วยเหลืออย่างเต็มที่ ในจุดนี้จะเปิดโอกาสให้คุณได้รู้จักเพื่อนร่วมงานดีมากยิ่งขึ้น แต่สำหรับข้อนี้.. อยากให้ข้อคิดกับคุณว่า นิสัยใจคอของคนเรานั้นมากมายหลากหลาย หากคุณพบว่าเพื่อนร่วมงานคนนั้นของคุณร้องขอความช่วยเหลือบ่อย ๆ ในชนิดที่คุณเริ่มเอะใจแล้วว่าคือการเอาเปรียบ ให้คุณรีบถอยออกมา และปฏิเสธอย่างมีมารยาท 3. Team is…

การพัฒนาตนเอง เพื่อเพิ่มความสามารถในด้านต่าง ๆ ล้วนเป็นสิ่งที่จำเป็นต่อชีวิตและการทำงาน เพราะเป็นหนทางสุจริตเพียงหนทางเดียวที่จะนำพาตัวคุณเองไปสู่เป้าหมายที่ตั้งไว้ให้สำเร็จหรือมีคุณภาพชีวิตดีกว่าที่เป็นมาได้ เหนือสิ่งอื่นใดนั้น คุณควรจะต้องเริ่มจากการค้นหา “วิธี” เพื่อ “พัฒนาตนเอง” ให้ได้อย่างมีประสิทธิภาพและเหมาะสมกับตัวคุณเสียก่อน และตามท๊อปปิคตัวหนาของเราในวันนี้เลยที่ต้องการเน้นย้ำว่า.. การพัฒนาตนเองที่ได้ผลดีนั้น คุณไม่จำเป็นต้องแข่งกับใครเพื่อที่จะเหนือกว่า หรือแม้แต่การแข่งขันกับตัวเองในแบบฉบับเมื่อวาน ก็ขอแนะนำว่าไม่ควรเช่นกัน !!! คำคมติดหูที่คุณมักได้ยินบ่อย ๆ เช่นว่า “คุณคนนี้ต้องดีกว่าเมื่อวาน..” ใด ๆ เหล่านั้น..ขอให้ลืมมันซะ อย่าไปกดดันตัวเอง เพราะชีวิตของแต่ละคนมีขึ้นและลงตลอดเวลา ดังนั้นการตั้งมายเซ็ตแบบนั้นจะส่งผลต่อจิตใจในเชิงลบได้ เราไม่จำเป็นต้องไปแข่งขันกับใคร ไม่จำเป็นต้องเปรียบเทียบตัวเราเองกับใคร คนคนเดียวที่เราควรจะแข่งขันด้วยก็คือตัวเราเองในวันนี้ กำหนดเป้าหมายให้แน่ชัด เพื่อให้การ “พัฒนาตนเอง” มีประสิทธิภาพ  ก่อนจะเข้าสู่วิธี “พัฒนาตัวเอง” สิ่งสำคัญแน่ชัดที่สุด คือการ “กำหนดเป้าหมาย” ให้ชัดเจน และควรจะกำหนด 1 เป้าหมายหลัก และเป็นประโยคสั้น ๆ เพื่อที่คุณจะสามารถมุ่งไปสู่เป้าหมายได้อย่างชัดเจน ไม่วอกแวก ยกตัวอย่างเช่น  จากตัวอย่างจะเห็นแล้วว่าเป้าหมายนั้นสามารถเป็นได้หลายอย่าง ซึ่งบางอย่างอาจจะกำหนดระยะเวลาในการทำได้ แต่บางอย่างจะต้องทำสม่ำเสมอและไม่ควรหยุดเด็ดขาด ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับคุณเลยว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้เป็นอย่างไร และเมื่อเป้าหมายสำเร็จจะขยายเพิ่มเติมหรือไม่ อันนี้ก็สุดแล้วแต่คุณเลย ทริคการกำหนดเป้าหมายอย่างไรให้มีประสิทธิภาพและได้ประสิทธิผลดีเยี่ยม ไปดูได้ที่.. 6 วิธี พัฒนาตนเอง แบบ “แข่งกับตัวเอง” มั่นคงและประสบความสำเร็จ รแนะนำ 6 วิธีพัฒนาตัวเอง แบบมั่นคง ไม่จำเป็นต้องรีบร้อน หรือยัดเยียดให้ประสบความสำเร็จได้ไว ๆ ขอเพียงแค่คุณตั้งมั่นและปักหมุดเป้าหมายที่ได้เลือกให้ดี และพยายามทำสิ่งต่าง ๆ เหล่านี้ไปเรื่อย ๆ แบบไม่ต้องกดดันตัวเอง เพราะการพัฒนาตัวเองควรจะเป็นสิ่งที่ทำให้ตัวเองรู้สึกดีขึ้น คนรอบข้างดีขึ้น ไม่ใช่พัฒนาตัวเองเพื่อให้ความสุขลดน้อยลง แล้วคุณจะรู้ว่า เพียงแค่คุณคนเดียวก็สามารถพิชิตยอดเขาเอเวอร์เรสได้ !…

ปัญหาเรื่องสายตาเล็ก ๆ อาจเป็นสัญญาณเตือนสุขภาพตาครั้งยิ่งใหญ่.. คนเรามักจะใช้สายตาเป็นประจำในทุกวัน ขึ้นอยู่กับว่าจะใช้สายตาไปกับอะไร ยิ่งหนุ่มสาววัยทำงานที่ใช้งานอวัยวะนี้เยอะกว่าคนรุ่นอื่น และเสี่ยงกับ ปัญหาสายตา เพราะส่วนใหญ่ต้องนั่งหน้าจอคอมฯ ในทุก ๆ วัน แถมชีวิตประจำวันของพวกเรายุคนี้หนีไม่พ้นการดูหน้าจอโทรศัพท์อยู่เสมอ ๆ เล่นเกมส์ ดูซีรีย์ อ่านเมล ตอบแชท ซึ่งแน่นอนว่าหากคุณใช้สายตาไม่เหมาะสมในแต่ละวัน จะส่งผลต่อสุขภาพตาในระยะยาวได้อย่างแน่นอน และหมั่นสังเกตอาการ เพราะหากปล่อยไว้นาน อาจทำให้ดวงตาลดอายุไขการใช้งานได้ไวมากกว่าเดิม ซึ่งเป็นสิ่งที่เป็นอันตรายมาก ๆ ในบทความนี้จึงอยากเชิญชวนทุกคนให้เริ่มหันมาดูแลสายตาตั้งแต่วันนี้ และจะพาทุกคนไปดูสัญญาณเตือนครั้งแรกให้ลองได้สังเกตตัวเองกันก่อน พร้อมแนะนำ 5 โรคปัญหาสายตาที่พบได้บ่อยมีอะไรบ้าง เริ่มต้น.. สังเกตอาการกันก่อน สัญญาณเตือนที่กำลังบอกว่าคุณจะเริ่มมี ปัญหาสายตา แล้วนะ นั่นก็คือ “ภาวะอาการตาล้า” ที่มีจุดสังเกตมากมายหลายอย่าง และที่น่ากลัวคือ คุณรู้ไหมว่า ?! ทุกคนอาจจะเป็นกันอยู่แล้ว แต่ไม่เคยสังเกตมาก่อน ซึ่งสาเหตุนั้นเกิดจากการใช้ดวงตาโดยไม่ได้หยุดพักจึงทำให้เกิดอาการตาล้า โดยลักษณะอาการมีรายละเอียดดังต่อไปนี้ ซึ่งสาเหตุเหล่านี้เป็นสิ่งที่สามารถเกิดขึ้นได้บ่อย ซึ่งถือว่าเป็นสัญญาณสุขภาพตาที่ไม่ค่อยดีนัก เบื้องต้นคุณอาจจะพิจารณาจากอาการเหล่านี้แล้วลองหาทางแก้ไปก่อนได้ แต่ทั้งนี้อาการตาล้า อาจเป็นสัญญาณของการบ่งบอกว่าเป็นโรคทางตาชนิดอื่นได้อีกด้วย ถ้าหากคุณเป็นแทบทุกข้อ ขอแนะนำปรึกษาแพทย์เฉพาะทางเพื่อประเมินและวินิจฉัยจะเป็นการดีที่สุด เพื่อที่จะหาทางป้องกันไม่ให้เกิดโรค เพราะมีโรคตาหลายชนิดเหมือนกัน ถ้าหากเป็นแล้วจะไม่สามารถรักษาได้ 5 โรคปัญหาสายตาที่พบได้บ่อยมีอะไรบ้าง ทีนี้ก็มาถึง 5 โรคปัญหาเรื่องสายตาที่สามารถพบได้บ่อย โดยโรคที่คัดมานั้นส่วนใหญ่แล้วมักจะเกิดจากพฤติกรรมการใช้สายตาของแต่ละคนเป็นหลัก และอาจเกี่ยวข้องกับอายุที่เพิ่มมากขึ้นก็ได้ด้วยเช่นกัน ถ้าหากคุณไม่มีการดูแลสุขภาพตาที่ดีหรือปล่อยปละละเลยแล้วละก็ สามารถทำให้เกิดโรคเหล่านี้ได้เช่นเดียวกัน 1. สายตาผิดปกติ ปัญหาเรื่องสายตาผิดปกติ คือสิ่งที่คนทุกคนบนโลกต้องเป็น ไม่ว่าจะเป็น สายตาสั้น (มองไกล ๆ ไม่ได้เห็นภาพเบลอ) สายตายาว (มองใกล้ ๆ ไม่ได้เห็นภาพเบลอ) สายตาเอียง (ภาพขาดความคมชัด) หรือสายตายาวในช่วงวัยที่อายุเพิ่มมากขึ้น…